โสม Ginseng

  • Tab 1
  • Tab 2
  • Tab 3
  • Tab 4

โสม เป็นพืชสมุนไพรที่มีคนรู้จักมากที่สุดในโลก โสมถือเป็นราชาแห่งสมุนไพรที เดียว และถูกนำมาใช้เป็นเวลานานกว่า 2000 ปี แล้ว โสมมีอยู่ด้วยกัน สามสายพันธ์ คือ โสมเอเชีย เช่น จีน เกาหลี (Panax ginseng, C.A. Meyer) โสมอเมริกัน และแคนาดา (Panax quinquefolium ) และโสมไซบีเรีย ( Eleutherococcus senticosus ) แต่อย่างหลังสุด ไม่ใช่โสมที่แท้จริงตามสายพันธ์ของโสม แต่ผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่ามีระบบการทำงานคล้ายโสม โสมเอเชีย มีถิ่นกำเนิดในตอนเหนือของจีน เกาหลีและประเทศสหรัฐอเมริกา ในตำรายาแผนโบราณของจีน ระบุว่า โสมเป็นสมุนไพรที่ช่วยเสริมความแข็งแรงให้แก่ ระบบย่อยอาหาร และปอด ช่วยทำให้จิตใจสงบและเพิ่มพละกำลังโดยส่วนรวม

โสม คือ ต้นไม้เตี้ย ๆ ที่มีชื่อทางพฤษศาสตร์วงศ์ ARALIACEAE ราก คือ ส่วนที่นำมาใช้จักว่า โสมเป็นยาสมุนไพรที่ได้รับจาก ไม้ที่ชาวตะวันออกนิยมใช้ กันมานานนับพันปี โสมมีหลายชนิดที่แตกต่างกัน พันธุ์เอเชียซึ่งเป็นที่รู้จักดีว่าเป็นโสมที่มี พันธ์ดีที่สุด (PANAX GINSENG) มักเกิดขึ้นงอกงามในบริเวณภูเขาของเกาหลี, จีน และญี่ปุ่น โดยเฉพาะเกาหลี ซึ่งเป็นผู้นำในการปลูกโสม ทั่วโลก คำว่า PANAX มาจากภาษาลาติน PANACEA แปลว่าสมุนไพรใช้บำบัดสารพัดโรค และ PANAKES ภาษากรีก แปลว่า แก้ได้ทุกโรคแบบยาครอบจักรวาล

ผลทางคลินิกของโสม
♥ เป็นยาบำรุงกำลัง (TONIC EFFECT)
♥ ฤทธิ์ต่อโรคผนังเส้นเลือดแข็ง และความดันโลหิตสูง
♥ ฤทธิ์ต่ออวัยวะสร้างเม็ดเลือดแดงและโลหิตจาง
♥ ฤทธิ์ต่อกลไกการสร้างกลูโคสและโรคเบาหวาน
♥ ฤทธิ์ในการรักษามะเร็งให้มีอาการดีขึ้น ทำให้เจริญอาหาร น้ำหนักขึ้น
♥ เพิ่มฮีโมโกลบินสูงขึ้น และเพิ่มความต้านทานให้อวัยวะที่ยังไม่เป็นโรค

สรรพคุณ โสมสกัด

1. ผลต่อระบบประสาทส่วนกลาง มีฤทธิ์ช่วยการเรียนรู้และความจำ มีฤทธ์ต้านความเครียดและคลายความกังวล มีฤทธิ์ต้านสารในสมอง เช่น ฤทธิ์ระงับปวด, ฤทธิ์กระตุ้นสมอง มีฤทธ์เสริมให้หลับ
2. ผลต่อความทนได้นาน
3. ผลต่อระบบหัวใจและหลอดเลือด ลดความดันโลหิต เพิ่มความดันโลหิต ลดการจับกลุ่มของเกร็ดเลือด
4. ผลต่อเนื้องอกและการกลายพันธุ์ มีฤทธิ์ต้านการเจริญของเซลล์เนื้องอก มีฤทธิ์ต้านการกลายพันธุ์ มีฤทธิ์ยับยั้งการเจริญของเซลล์มะเร็งรังไข่ มีฤทธิ์ยับยั้งการเจริญของเซลล์มะเร็งกระเพาะอาหาร
5. ผลต่อระบบต่อมไร้ท่อ เสริมพฤติกรรมทางเพศ กระตุ้นการสร้างอสุจิ เร่งการเจริญเติบโตของรังไข่และการตกไข่
6. ผลต่อการหลั่งกรดและการปกป้องกระเพาะอาหารลดการหลั่ง กรดและน้ำย่อยที่กระเพาะอาหาร ยับยั้งการเกิดแผลในกระเพาะอาหาร
7. มีผลต่อระบบภูมิคุ้มกัน ช่วยกำจัดอาการต่าง ๆ ของวัยหมดประจำเดือน
8. มีฤทธิ์ต่อต้านความแก่ มีการเปลี่ยนแปลงด้านความจำ อารมณ์ การทำงาน การนอนหลับดีขึ้น
9. บรรเทาอาการอักเสบ
10. ช่วยการทำงานของกล้ามเนื้อกระบังลมดีขึ้น
11. ลดระดับแอลกอฮอล์ในเลือด
12. มีฤทธิ์เสริมสร้างกล้ามเนื้อ
13. มีผลต่อการนำกลูโคสเข้าเซลล์
14. มีฤทธิ์ต้านเชื้อไวรัส HIV-1
15. มีฤทธิ์ป้องกันอันตรายจากรังสีแกมม่า

สารที่มีคุณประโยชน์
♥ สารจำพวกซาโปนินในกลุ่มไตรเทอพินอยด์ มีชื่อเรียกรวม ๆ ว่าจินเซนโนไซด์ (ginsenosides) หรือพานาโซไซด์ (panaxsides)
♥ การออกฤทธิ์ของสารเหล่านี้จะแตกต่างกันออกไปตามวิธีการใช้ที่เกี่ยวข้องกับ เครื่องสำอาง
1. โสมคนเท่านั้นที่เกี่ยวข้องกับความงามของคนเรา
2. รากโสมมีกลิ่นเล็กน้อย ซึ่งถือว่าเป็นกลิ่นหอมเฉพาะตัว นำมาผสมเครื่องสำอาง
3. สกัดมาเป็นส่วนผสมเครื่องสำอางขาย ในรูปครีมทาหน้า โลชั่น ครีมทาผิว ครีมล้างหน้า (ทั้งยาทายานวด)
4. สกัดมาเป็นส่วนผสมของยาทาน เสริมสร้างร่างกายและทำให้ผิวพรรณเปล่งปลั่ง
♥ สารฮอร์โมนเอสโตรเจน จะช่วยกระตุ้นผิวหนังให้มีชีวิตชีวา บำรุงผิวพรรณให้เปล่งปลั่ง บริษัทเครื่องสำอางในประเทศ และเยอรมันใช้โสมผสมในครีมล้างหน้า เพื่อบำรุงผิวหน้าให้เปล่งปลั่ง สดชื่นมีน้ำมีนวลอยู่เสมอ

Source :

ประเภท ของโสม

โสมเกาหลี

เป็นโสมที่มีการกล่าวถึงมากที่สุดในปัจจุบัน มีชื่อทางพฤกษศาสตร์ว่า Panax ginseng C. A. Meyer มีลักษณะโดยรวมเช่นเดียวกับโสมโดยทั่วๆไป คือเป็นพืชล้มลุก รากแตกออกเป็นแฉก ลำต้น ใบ ดอก และผล อายุของโสมที่มักจะเก็บมาใช้นั้นอยู่ที่ 5-7 ปี
หากต้องการจะเพาะปลูกโสมเพื่อการค้านั้นจะต้องเลือกที่ดินที่ว่างจากการเพาะ ปลูกเป็นระยะเวลาอย่างน้อย 10ปี และจะต้องจัดสภาพแวดล้อมให้กับโสมเป็นอย่างดีด้วย สิ่งที่โสมไม่ชอบ ก็คือ แสงแดด ดังนั้นหากเลือกพื้นที่ซึ่งมีแดดส่องถึง หรือแดดจัดมากจนเกินไป ก็จะทำให้ได้โสมที่ไม่มีคุณภาพหรือเพาะปลูกไม่ขึ้น เมื่อได้อายุที่จะต้องเก็บเกี่ยวโสมแล้วจะต้องเลือกระยะเวลาให้ดี กล่าวคือ จะต้องรอไปจนกระทั่งถึงฤดูใบไม้ผลิ เพราะเป็นช่วงเวลาที่ลำต้นโสมโผล่ขึ้นมาเหนือพื้นดิน ผิดกับฤดูหนาวที่ลำต้นของโสมจะจมลงสู่ใต้พื้นดิน โสมเกาหลีที่คนไทยรู้จักกันดี ก็คือ โสมแดงและโสมขาว ซึ่งชื่อ2ชื่อนี้ดูเหมือนจะถูกนำไปใช้เรียกประเทศเกาหลี หรือขาวเกาหลีด้วย
ก็เท่ากับว่า โสมขาว และโสมแดง กลายมาเป็นสัญลักษณ์ประจำชาติเกาหลีไปแล้วนั่นเอง ส่วนหนึ่งนั้นก็น่าจะมาจากการที่โสมเกาหลีไม่ว่าจะเป็นโสมขาว หรือโสมแดงนั้นถูกควบคุมคุณภาพอย่างเคร่งครัด แม้ว่าโสมแดงจะมีคุณภาพมากกว่าโสมขาว แต่ก็มิได้หมายความว่าโสมขาวจะไร้ซึ่งคุณภาพแต่อย่างใดเลย หากเปรียบเทียบกับสินค้าโดยทั่วไปก็พอจะนับได้ว่า โสมแดงเป็นสินค้าเกรดเอ และโสมขาวเป็นสินค้าเกรดบี หรือเกรดลองลงมา

โสมจีน
โสมจีน มีชื่อทางพฤกษศ่าสตร์ว่า P.notoginsong Burk C P. wangianus Sun. ชื่อสามัญได้แก่ Sanchi Ginseng สาเหตุที่ได้ชื่อว่าโสมจีนนั้นเพราะว่า เป็นโสมที่ได้มาจากมณฑลกวางสี หรือยูนานในประเทศจีน ถึงแม้ว่าจะมีการนำเอาสายพันธุ์ของโสมชนิดนี้ไปปลูกในบางรัฐของเวียดนามบ้าง ก็ตาม แต่ผลิตผลที่ได้ก็ยังคงเรียกขานกันตามแหล่งเดิม ซึ่งก็คือ โสมจีน นั่นเอง

โสมซวูซิเสียน
โสมชนิดนี้มีชื่อทางพฤกษศาสตร์ว่า P.pseudoginseng Var.mager (Bork) C.Y.Wuet K.M Fery (P.majer (Burk) Tisg) เป็นสายพันธุ์โสมที่แตกต่างจากโสมจีนอยู่บ้างเล็กน้อย พบมากในประเทศจีนทางตะวันตก คุณสมบัติและสรรพคุณในทางการแพทย์ และการบำรุงนั้นมีความคล้ายคลึงกับโสมจีนอยู่พอสมควร

โสมญี่ปุ่น
มีชือทางพฤกษศาตร์คือ P.seudoginseng Wall. Subsp. Japanicus Hora P.japanicus C.A.Meyer มีชื่อสามัญคือ Japanese Chitkusetsu Cinseng เป็นโสมที่พบและเพาะปลูกกันมาในประเทศญี่ปุ่นสำหรับใช้กันเองภายในประเทศ เพื่อลดการนำเข้าโสมจากประเทศเกาหลี จีน และอเมริกาเป็นหลัก ไม่ได้ปลูกเพื่อส่งออก และยังไม่เป็นที่นิยม

โสมหิมาลายัน
มีชื่อทางพฤกษศาสตร์ว่า P.pseusoginseng Sabsp. Him alaicas Hara พบขึ้นโดยทั่วไปแถบเทือกเขาหิมาลายันเขตประเทศเนปาล โสมตัวนี้ยังไม่เป็นที่นิยมในหมู่ผู้บริโภคมากนัก อีกทั้งยังมีความลำบากในการนำมาใช้

โสมอเมริกา
ชื่อในทางพฤกษศาสตร์ คือ Panax quinquesofium L. ชื่อทางสามัญคือ America Cinseng เป็นโสมอีกชนิดหนึ่งที่เชื่อว่ามีคุณสมบัติและสรรพคุณใกล้เคียงกับโสมเกาหลี พบมากในแถบแคนาดา และอเมริกา เมื่อหลายร้อยปีก่อนได้มีการขุดพบขึ้นและได้ส่งมาขายประเทศที่นิยมใช้โสม การขุดโสมอเมริกามาขายในสมัยนั้นขาดการควบคุมและไม่มีการปลูกทดแทนทำให้โสม ที่ขึ้นใหม่ตามธรรมชาติลดลงและด้อยคุณภาพลงเรื่อยๆ เป็นสาเหตุให้ราคาตกต่ำจนถึงขีดสุด และต่อมาก็มีคนริเริ่มคิดเพาะพันธุ์และปลูกทดแทนขึ้นมาใหม่

โสมคน
โสมคนหรือที่รู้จักในชื่อ ว่านผักปัง ของชาวเชียงใหม่ เป็นพืชที่อยู่ในวงศ์ Portulacaceae มีชื่อเรียกทางพฤกษศาสตร์ว่า Talinum panicalatum Gaertn. ชาวจีนรู้จักในชื่อของ โท่วหยี่งเซียม เป็นพืชลืมลุกที่มีอายุเพียง 1ปีเท่านั้น โดยมากจะนำมาเพาะปลูกเพื่อความสวยงามและเป็นไม้ประดับ จะมีบ้างที่มีการใบสดหรือรากมาปรุงเป็นยา

♥ โสมที่นิยมนำมาใช้คือโสมคน ประเทศเกาหลีใต้เป็นประเทศที่ส่งโสมออกจำหน่ายมากที่สุด โดยมีทั้งโสมขาวและโสมแดง (โสมแดงมีคุณภาพและราคาแพงกว่าโสมขาว เนื่องจากต้องอบไอน้ำอย่างน้อย ๔ ชั่วโมงก่อนทำให้แห้ง ส่วนโสมขาวใช้วิธีตากแดดให้แห้ง ราคาจึงย่อมเยากว่า)
ส่วนที่นำมาใช้ คือ ส่วนที่เป็นราก (หัว)

โสมเป็นสมุนไพรขจัดสารพิษ บำรุงเลือด และบำรุงอวัยวะ ภายในที่สำคัญทั้ง 5 คือ หัวใจ ปอด ตับ ไต ม้าม

เพราะในโสมมีสารที่ไปออก ฤทธิ์ทางยาดังนี้ครับ

1.ซาโปนิน (saponin)ช่วยในการกระตุ้นดังนี้

1.1 กระตุ้นให้เกิดการสร้างเม็ด เลือดทั้งขา-แดง
1.2 ปรับความผิดปกติของประสาท ส่วนกลาง
1.3 บรรเทาความรู้สึกเจ็บปวด
1.4 กระตุ้นให้เกิดการสร้าง DNA ในกระดูก
1.5 กระตุ้นให้ไตผลิตฮอร์โมน
1.6 บรรเทาความเครียดทำให้รู้สึก สดชื่น
1.7 มีผลทำให้สามารถหลับได้นาน ขึ้นส่งผลไม่ให้เกิดการอ่อนเพลีย
1.8 กระตุ้นให้เกิดการเผาผลาญ ไขมันและยับยั้งไม่ให้เกิดการสะสมไขมัน
1.9 บรรเทาอาการร้อนใน
1.10 กระตุ้นให้เกิดการสร้างอสุจิ

2 กรดนิวคลีอิก (Nu Cieic Acid)
โดยปกติมีอยู่ในร่างกายอลู่ แล้ว ซึ่งมีหน้าที่เกี่ยวกับกระบวนการสร้าง โปรตีนซึ่งเป็นส่วนประกอบ เซลล์ต่าง ๆ ได้แก่ DNA ,RNA ซึ่ง เชื่อกันว่าสารที่ได้จากโสม มีผลต่อผู้ป่วยโรคเบาหวาน

3 มอลต์นินอล (Malphenol)
ยับยั้งการเกิดกระบวนการเกิด ไขมันที่ร่างกายไม่สามารถจะกำจัดให้ออกไป จากร่างกายได้ ซึ่งไขในที่เกิดมีผลต่อการเสื่อมของร่างการ

4 โปตัสเซียม (Potassium)
เป็นแร่ธาตุที่พบมาในพืชผัก รวมทั้งในโสม จากการวิจับพบว่า โปตัสเซียมมีปริมาณสูงมาก

5 มักนิเซียม (Magnesium)
เป็นแร่ธาตุเสริมและใกล้ เคียงกับโปตัสเซียม หน้าที่หลัก กระตุ้นให้เกิดกระบวนการเผา ผลาญและกระตุ้นการทำงานของเซลล์ ยับยั้งการก่อตัวของคอเลสเต อรอลในเลือด อันมีผลต่อกรดหลายชนิด เช่นความดันสูง ,เส้นเลือดตีบ

สาร Adaptogens ในโสม มีคุณสมบัติลดความเครียด ช่วยปรับสภาพร่างกายและจิตใจให้ทนต่อภาวะต่างๆ ได้มากขึ้น และยังช่วยลดความเมื่อยล้า โดยกระตุ้นให้เซลล์ในร่างกายสร้างพลังงานเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ยังช่วยให้ร่างกายรู้สึกสดชื่น กระปรี้กระเปร่า และกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายให้แข็งแรงมากขึ้น นอกเหนือจากสรรพคุณที่ได้กล่าวมาแล้วยังมีรายงานผลการวิจัยของโสมเพิ่มเติม อีกดังต่อไปนี้

โสมมีส่วนช่วยเพิ่ม การสร้างพลังงาน ทำให้นักกีฬามีความทนทานต่อการออกกำลังหนักได้ดีขึ้น และทำให้สามารถนำพาออกซิเจนไปใช้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

กระตุ้นระบบภูมิคุ้ม กันในร่างกายให้แข็งแรง โดยการสร้างสาร Interferon ซึ่ง เป็นสารต้านเชื้อไวรัส และกระตุ้นการสร้างโปรตีน Interleukin- 1

ช่วยบรรเทาอาการร้อน วูบวาบในหญิงวัยหมดประจำเดือน

ลดการหลั่งฮอร์โมนที่ ทำให้เกิดความเครียดจากต่อมหมวกไต

ลดอัตราการแพร่กระจาย ของเซลล์มะเร็ง

ควบคุมระดับน้ำตาลใน เลือดให้อยู่ในระดับปกติ

ช่วยฟื้นฟูสมรรถภาพ ทางเพศ

ทำให้อัตราการเต้นของ หัวใจเป็นปกติ

ลดอาการข้างเคียงจาก การฉายรังสี

จากที่กล่าวข้างต้นจะ เห็นได้ว่าพืชสมุนไพรชนิดนี้มีสรรพคุณมากมาย ตั้งแต่เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของระบบต่างๆ ในเวลาที่อ่อนเพลีย ช่วยสร้างพลังงานกับร่างกาย ลดภาวะซึมเศร้า เสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของหัวใจและหลอดเลือด ไปจนถึงการเสริมสร้างระบบความจำของสมอง ถึงแม้ว่าการรับประทานโสมอาจทำให้มีอาการนอนไม่หลับได้บ้าง แต่ในปัจจุบันยังไม่พบอาการไม่พึงประสงค์ที่ร้ายแรงจากการใช้โสม (การใช้โสมหรือสมุนไพรอื่นๆ ในผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูง ควรอยู่ภายใต้การควบคุมของแพทย์หรือเภสัชกร

ส่วนประกอบของโสม


ต้นปี 1854 Garriques จากอเมริการได้แยก สารซาโปนินจากโสมอเมริกา และให้ชื่อว่า“panaquion ” ในปี 1957 ก็มี นักวิทยาศาสตร์รัสเซีย ชื่อ Dr. l.l. Breakhman ได้พิมพ์เอกสารชื่อ Panax ginseng (Zhen-Shen) ในเอกสารเขาได้แนะนำว่า saponin เป็นส่วนประกอบที่ออกฤทธิ์ เขาได้แสดงให้เห็นถึงทฤษฏี adaptogen ที่ได้อธิบายว่า ส่วนประกอบของโสมเกาหลี ช่วยทำให้ร่างกายสดชื่นได้อย่างไร สารที่ออกฤทธิ์ที่ถูกเรียกว่า “ adaptogen ”ภายหลังจากนั้นไม่ช้าการแยกและ การแสดงลักษณะ ซาโบนิน (saponin) และเศษส่วนของ ginsenoside ถูกทำให้ประสบผลสำเร็จโดยนักวิทยาศาสตร์ชาวญี่ปุ่นชื่อ SShibata และ O.Tanaka

  • Ginseng Saponin ที่เรียกว่า gisenoside ประกอบด้วยส่วนที่เป็นน้ำตาล(glycon) และส่วนที่ไม่ได้เป็นน้ำตาล (aglycon)Aglycon ซึ่งเป็นส่วนหลักของginsenosideถูกจัดไว้เป็น 3 ชนิดคือ 1. Protopanaxidiol , Protopanaatriol และ Olenoic acid 2. Protopanaxadiol และ Protopanaxatriol 3. Retacyclic terpene ของชุด Dammarane
  • ส่วนประกอบของ SAPONIN 29 ชนิด Ro , Ra1 , Ra2 , Ra3 , Rb1 , Rb2 , Rb3 ,Rc1 , Rd , Re , Rf , Rg1 , Rg2 ,Rg3 , Rh1 , Rh2 , 20-Gluco-Rf etc.
  • สาร Saccharoids Rhamnose , Fructose , Glucose , Sucrose , Maltose etc.
  • กรดอินทรีย์ เช่น Salicylic acid, Vanillic acid, P-Hydroxycinamic acid โสมบรรจุกรด อินทรีย์ที่ไม่ระเหยเช่น Citric acid, Malic acide, Succinic acid,Ketoglutamic acid, Pyruvic acid, และกรดอินทรีย์ที่ระเหย เช่น Acetic acid, Propionic acid, Iso-Butyric acid, n-Butylic acid, n-Valeric acid, และอื่น ๆ
  • สารประกอบ ที่ละลายในไขมัน ( Liposoluble nutrient ) myristic acid, palmitic acid, palmitoeic acid, stearic acid, oleic acid
  • ส่วนประกอบ ไนโตรเจน (Nitrogenous Compound) สารประกอบ ไนโตรเจน เป็นส่วนประกอบของโปรตีน, กรดอะมิโน, peptidenucleicacid, alialoid, etc., และมีกรดอะมิโนเช่น aspartic acid, threonin, serine
  • วิตามิน และแร่ธาตุ วิตามินที่ มีอยู่ในโสมเกาหลีคือ Niacin, Ascorbic acid, Pantothenic acid, Biotine, Folic acid, Riboflavin, และอื่น ๆ ส่วนแร่ธาตุ คือ ฟอสฟอรัส , โปแตสเซี่ยม , แคลเซี่ยม , แมกนีเซียม , อะลูมิเนี่ยม , เหล็ก , ทองแดง , สังกะสี ,โมลิบดินัม , แมงกานิส และอื่น ๆ

“ โครงสร้างโมเลกุลของจินเซโนไซด์ จะมีโครงสร้างของโมเลกุลส่วนใจกลาง 2 ชนิด คือ Protopanaxadiol และ Protopanaxtrione โมเลกุลใจกลาง 2 ชนิดนี้จะจับกับน้ำตาลชนิด และจำนวนต่าง ๆ กัน ซึ่งจะได้จินเซนโนไซด์ชนิดต่าง ๆ กันด้วย นอกจากนี้ยังมีสารเคมีต่าง ๆ ที่พบตามส่วนต่าง ๆ ของรากโสมอีกมากมาย ”

ประสิทธิผลทางเภสัชวิทยาของโสม เกาหลี

  1. ปฏิกิริยาต่อระบบประสาทส่วนกลาง พบว่าโสมให้การกระตุ้นโดยทั่วไปต่อระบบการทำงานของเส้นประสาท และการทำงาน โดยขบวนการของการกระตุ้นและยับยั้งในส่วนเนื้อของสมองใหญ่ (Cerebral Cortex) เพื่อยกระดับของการตอบสนอง ของทั้งสองด้าน ให้สูงขึ้น โสมมีปฏิกิริยาในการบำรุงกำลัง และมีผลในทางการกระตุ้นที่สำคัญต่อเนื้อเยื่อของร่างกาย และผลในทางที่ดีต่อ ระบบการตอบสนองที่เกี่ยวข้องกับ การทำงานหลายอย่างของระบบ ประสาทส่วนกลาง ปฏิกิริยาเหล่านี้ มีประสิทธิภาพต่อความอ่อนเพลีย การนอนไม่หลับ เบื่ออาหาร และยังมีประโยชน์สำหรับโรคประสาท และความไม่สบาย ทางจิตใจ และร่างกายที่เกิดขึ้นร่วมกับความผิดปกติของระบบประสาทอัตโนมัติ ความอ่อนแรงที่เพิ่มขึ้น และสำหรับโรคจิตเภท ภาวะของการอักเสบของสมอง (encephalitis condition) ที่ตามด้วยการเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ และโรคอื่น ๆ อีกหลายโรค
  2. ปฏิกิริยาต่อความดันโลหิต โสม มีผลในการลดความดันโลหิตที่เกิดจากการระงับการทำงานของเส้นประสาทสมองคู่ที่ 10 ( Vagus nerve ) แต่ผลนี้จะถูกยับยั้งโดยสิ้นเชิงในสัตว์ทดลองที่ได้รับ อะโทรปิน (Atropion) โสมมีผลที่แยกออกจากกันของ อีสตามีน และทิโรโตนิน (Hystamin & serotonin) และลดระดับคอเรสเตอรอลในเลือดที่เกี่ยวกับความดันโลหิตสูง และมีผลในทางป้องกันโรคหลอดเลือดแข็งตัว
  3. ปฏิกิริยาต่อภาวะน้ำตาลในเลือดสูง โสม เกาหลีมีผลสำหรับโรคเบาหวาน และยับยั้งภาวะระดับน้ำตาลสูงในเส้นเลือด เนื่องจากการหลั่งฮอร์โมน อะดรีนาลิน (Adrenalin) และการกินอาหาร โสมช่วยควบคุม ระบบการเผาผลาญอาหาร ของคาร์โบไฮเดรต (Metabolism of Carbohydrates) และกระตุ้นการสร้างอินซูลิน
  4. ปฏิกิริยาต่อเม็ดเลือด โสม จะกระตุ้นการสร้างเซลล์ของเม็ดเลือดแดง และปริมาณของฮีโมโกลบิน โดยที่โสมมีความเกี่ยวพัน กับต่อมเนื้อไต (Adrenal the cortex) อย่างใกล้ชิด โสมจึงลด (Acidophi blood cells) ในระบบการไหลเวียนของโลหิต อย่างมากในการใช้เป็นระยะเวลานาน ๆ