สีในงานตกแต่งภายในตามหลักฮวงจุ้ย

 

การตกแต่งภายในสมัยใหม่นั้น อาจมีการใช้หลักฮวงจุ้ยมาเป็นส่วนหนึ่ง ซึ่งผู้ตกแต่งนั้น นอกจากจะได้บ้านหรือสำนักงานที่สวยงาม เหมาะสมกับการใช้งานและอยู่อาศัยแล้ว ยังอาจส่งผลให้ผู้อยู่อาศัยประสบผลสำเร็จต่างๆ ตามหลักฮวงจุ้ยอีกด้วย ซึ่งการใช้สีตามหลักฮวงจุ้ยในการตกแต่งภายในนั้น ก็อาจส่งผลที่แตกต่างกันออกไป ดังนี้

สีแดง
คือสีแห่งความเป็นมงคลของชาวจีน เป็นสัญลักษณ์แทนธาตุไฟ ความโดดเด่นของสีแดงคือ ความสว่างไสวในยาม มืดมิด คือความอบอุ่นในยามหนาว เป็นไฟที่ลุกโชน คือ ความรุ่งเรืองโชตช่วง พลังอำนาจ ความร้อนแรงของไฟ
สามารถเผาผลาญ ความชั่วร้ายหรือสิ่งที่ไม่ต้องการให้มอดใหม้ไป ดังนั้นสีแดงคือ ตัวแทนในการถ่ายทอด คุณลักษณะ ของไฟ เมื่อใดที่ต้องการ ความเป็นมงคล หรือต้องการเพิ่มพลังอำนาจ ให้กับตนเอง ก็มักเลือกสีแดง มาใช้
ในทางจิตวิทยา
สีแดงมีผลกระทบต่อจิตใจและอารมณ์ กระตุ้นให้เกิดความสดใส มีพลังทำให้ตื่นตัวอยู่เสมอ หรืออาจจะหมายถึงการเตือนภัย เมื่อเปรียบเทียบในทาง ฮวงจุ้ย ก็จะพบกับ ความพ้องกันหลายประการ อารมณ์แจ่มใส และจิตใจที่กระตือรือล้น ย่อมส่งผลดีต่อการสร้างสรรค์ใน การทำงาน ความเป็นมงคล จึงน่าจะเริ่มจาก การที่ตนเอง เต็มไปด้วยพลัง ในการทำงานนั่นเอง เมื่อสามารถปฎิบัติหน้าที่การงานได้ สำเร็จลุล่วงแล้ว ความเจริญรุ่งเรือง ก็จะตาม มาอีกประการหนึ่ง ที่น่าสนใจความเชื่อเฉพาะกลุ่ม ชาวจีนมีความผูกพันกับสีแดง ในแง่ดี มาตั้งแต่เริ่มแรก ดังนั้น สีแดง จึงสื่อถึง ความเป็นมงคล และรุ่งเรือง ฮวงจุ้ย ไม่ได้ให้ความสำคัญ กับการเตือนภัยเช่นเดียวกับ จิตวิทยาสี แต่จะเน้นเรื่อง การป้องกันกระแส ชี่ร้าน ที่อาจเข้ามาบั่นทอน ทำลาย มากกว่าโดยมีความเชื่อว่า ด้วยพลังอำนาจ ของสีแดงสามารถ ป้องกันภัย จากสิ่งชั่วร้ายได้
สีในงานตกแต่งภายในตามหลักฮวงจุ้ย
สีเหลือง
เป็นสัญลักษณ์แทนธาตุดิน ซึ่งหมายถึง ความเป็นปึกแผ่นมั่นคง ทั้งในแง่ของ อารมณ์ความรู้สึก และชีวิตความเป็นอยู่ ความเจริญรุ่งเรือง เป็นเครื่องหมายของ จักรพรรดิ ซึ่งเป็นตัวแทนแห่งฟ้า เป็นอำนาจที่ควบคุม แผ่นดินซึ่งจะสังเกต ได้ว่ากษัตริย์จีน จะแต่งองค์ด้วยชุดสีเหลือง และมีสีทองเป็นส่วนประกอบ
ในทางจิตวิทยา สีบอกถึงความบริบูรณ์ กระปรี้กระเปล่า พลังแห่งความหวัง ความสดชื่น รื่นเริงบันเทิงใจ
และเมื่อนำมาเปรียบเทียบกับ ความหมายในเชิงของ ฮวงจุ้ย ก็พอจะทำให้เห็นว่าความสดชื่นรื่นเริง ความหวัง
เป็นสิ่งที่ทุกคนปรารถนา เมื่อประชาชนรักในกษัตริย์ของตนเอง จึงต้องการให้สิ่งดีๆ เกิดขึ้นกับบุคคล ที่ตนรักเช่นกัน ต่างกันตรงที่สีเหลือง ในทางฮวงจุ้ย เป็นสิ่งที่สูงส่งห้ามใช้ในบางกรณี เพราะต้องสงวน ให้กษัตริย์เท่านั้น

สีเขียว
เป็นสัญลักษณ์แทนธาตุไม้ ซึ่งมีความหมายเกี่ยวะเนื่องด้วยการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น เจริญงอกงาม นำความรุ่งเรืองสดใส มาสู่กระแสชี่ที่ไหลเวียนอยู่โดยรอบ
ในทางจิตวิทยา สีเขียวเป็นสีของธรรมชาติ ความอุดมสมบูรณ์เมื่อมองดูจะให้ความรู้สึกสดชื่นของธรรมชาติ ดูเหมือนว่าสีเขียวจะแทน ธรรมชาติที่ดีๆโดยรวม สีเขียวช่วยบำบัดความเคร่งเครียดได้ไม่ว่าจะเป็นการประดับ ตกแต่งสถานที่ด้วยต้นไม้ก็จะส่งผลไม่ต่างกัน

สีม่วง
และสีที่อยู่ในโทนม่วงทั้งหมดนั้นมีความเป็นมงคลใกล้เคียงกับสีแดงอาจจะน้อยกว่าหรือมากกว่าขึ้นอยู่กับความเชื่อ ของแต่ละชุมชน ซึ่งเชื่อว่าสีม่วง ดูทรงพลัง และ หนักแน่นมากกว่าสีแดง ถึงกระนั้นสีม่วงก็ยังไม่สูงส่งเท่ากับสีเหลือง หรือสีทองเพราะชนชั้นที่นำ เอาสีม่วงไปใช้นั้นเพียงผู้มีอำนาจเท่านั้น จุดประสงค์ที่นำเอาสีม่วงมาใช้ เพื่อเสริม ให้เกิดความมั่งคั่งบริบูรณ์ เพิ่มอำนาจวาสนามากยิ่งขึ้นนั่นเอง
ในทางจิตวิทยา สีม่วงหมายถึงความหดหู่ เศร้าโศก ส่วนสีม่วงที่มีความเข้มลดลงมาบ่งบอกถึงความลึกลับ อำนาจแห่งเสน่ห์ ซึ่งแตกต่างกับ ทางฮวงจุ้ย ถึงแม้ว่า ฮวงจุ้ยจะยกย่องสีม่วงเป็นสีแห่งมงคล โชคลาภและอำนาจ ก็ตาม แต่ก็เป็นอำนาจโดยรวม ไม่ใช่อำนาจที่เกิดจากเสน่ห์ เหมือนกับจิตวิทยาสี อาจเป็นไปได้ว่า จิตวิทยาสีเป็น การกำหนดและวิเคราะห์โดยชาวตะวันตก ดังนั้นจึงเป็นความเห็นความรู้สึกของชน กลุ่มหนึ่งที่รู้สึกต่อสีม่วง แต่ กระนั้นก็ตาม สิ่งที่ชนทั้งสองซีกโลกรู้สึกได้เหมือนกันก็คือ พลังอำนาจจากสีม่วงแม้ว่าที่มาของอำนาจจะแตกต่างกัน ก็ตามที

สีดำ
เป็นสัญลักษณ์แทนธาตุน้ำ ทำให้มีคุณสมบัติลึกลับไม่แน่นอนแต่สามารถอยู่หลอมรวมกับทุกสิ่งได้มีทั้งพลังอำนาจ และความอ่อนไหว ไปพร้อมๆกัน ให้ทั้ง คุณประโยชน์มากมาย และยังสามารถนำมาซึ่งภัยพิบัติที่ยากจะประเมินค่าได้ ดังนั้น สีดำจึงหมายถึงความคลุมเครือไม่แน่นอนเช่นเดียวกับกระแสน้ำ หมายถึงความลึกล้ำที่ยากจะหยั่งถึง
ในทางจิตวิทยา สีดำเป็นสีที่เร้นลับ เคร่งขรึม โศกเศร้า ในกรณีของความลึกลับซับซ้อนนั้นไม่ใช่สิ่งที่เหนือความ คาดหมายของผู้คนนัก และเหตุที่ความลึกของ สายน้ำเป็นสิ่งที่ลึกล้ำเกินหยั่ง ดังนั้น ฮวงจุ้ย จึงได้นำเอาสีดำมา เป็นสัญลักษณ์แทนธาตุน้ำ ถึงแม้ว่าสีดำจะให้ความรู้สึกลึกล้ำยาก เกินหยั่ง แต่อีกแง่หนึ่งก็ให้ความ รู้สึกสงบนิ่ง ซึ่งเป็นคุณสมบัติของสายน้ำนั่นเอง

สีเทา
สีเทาเป็นส่วนผสมระหว่างสีดำและสีขาว ซึ่งทำให้มันไม่สามารถหาเอกลักษณ์เฉพาะตัวได้ด้วยเหตุนี้ จึงแทนความหมาย ความไม่ชัดเจน และเหตุที่มันมีสีเดียวกับเมฆฝน จึงทำให้สีเทา มีความหมายไป ทางหม่นหมองหดหู่ สิ้นหวังดังคำกล่าว ที่ว่า เมฆฝนเปรียบได้กับ ช่วงชีวิตที่เต็มไปด้วย อุปสรรคและปัญหา ไม่รู้ว่าเมื่อใดที่เมฆฝน ลอยผ่านพ้นไปจากชีวิต แต่ว่ายังมีอีกกลุ่มหนึ่งที่เชื่อว่า สีเทายังมีแง่ดีอยู่บ้าง นั่นคือความสงบและความสมดุลย์ ด้วยว่า มันเป็นส่วนผสมของ ขาวและดำที่เท่ากัน
ในทางจิตวิทยา หมายถึงความสงบนิ่งและเดียวดาย จะตรงกันกับ ฮวงจุ้ย ก็คือความสงบ อาจจะเพราะสีเทามี ความเป็นกลาง การเพ่งมองสีอ่อนนานๆ ทำให้จิตใจสงบ

สีน้ำตาล
เป็นสีแทนความอบอุ่นมั่นคงไปด้วยหลักทรัพย์ เป็นสีเดียวกับต้นไม้ขนาดใหญ่ บ่งบอกถึง อดีตอันยาวนาน และ ประสบการณ์ที่ผ่านมา ดังนั้น มันจึงกลายเป็น สัญลักษณ์ของผู้สูงอายุตามไปด้วย ความสุขุมเยือกเย็น ยังเป็น เอกลักษณ์ ของสีน้ำตาลด้วยเช่นกัน
ในทางจิตวิทยา สีน้ำตาลทำให้รู้สึกแห้งแล้ง ความเห็นพ้องระหว่าง ฮวงจุ้ย กับจิตวิทยา คือ ความอบอุ่น หากนำสีที่เพิ่ม ความสดใส ในสัดส่วนที่เหมาะสม ก็จะได้ความ อบอุ่นมั่นคงสามารถลดความแห้งแล้งได้

สีส้ม
สีส้มเป็นสีที่เดียวกับสีน้ำผึ้ง เพราะได้รวมเอาสีแดงคือความรุ่งโรจน์ พลังอำนาจและความเป็นมงคลและความมั่งคั่ง ความหวังรุ่งเรืองของสีเหลือง
ในทางจิตวิทยา
หมายถึงการฟื้นตัวและพลังชีวิตเพราะว่าสีส้มรวมเอาสีแดงและเหลืองไว้ด้วยกันให้ความรู้สึกในแง่ดี

สีชมพู
คือความสดใสบริสุทธิ์ของวัยสาว ความรักอันบริสุทธ์ ความเบิดบาน ความคิดและจิตวิญญาณที่ปราศจากจริตมายา
ในทางจิตวิทยา สีชมพูบอกถึงความละมุนละไมความอ่อนเยาว์สดใส ซึ่งพิจารณาดูแล้วสอดคล้องกับสิ่งที่ ฮวงจุ้ย ได้บอกไว้เช่นกัน ด้วยคุณลักษณะของสีชมพูคงไม่มีใคร ปฎิเสธถึงความอ่อนหวานน่ารัก แม่ส่วนมากมักเลือก เสื้อผ้า เครื่องใช้ รวมถึงตกแต่งห้องด้วย สีชมพูเตรียม ไว้ให้ลูกสาว เพราะนอกจาก จะเป็น สีแห่งความอ่อนหวาน แล้ว การเลือกสีชมพูสำหรับเด็กผู้หญิงนั้น เสมือนการอวยพรให้เด็กเป็นคนที่อ่อนหวาน งดงามน่ารักบริสุทธิ์

สีชมพูโอรส
เนื่องจากเป็นสีที่มีส่วนประกอบหลากหลาย ได้แก่ สีชมพู และสีส้มเล็กน้อย หากเป็นสีชมพูล้วนๆก็หมายถึงความบริสุทธิ์น่ารัก แต่เมื่อสีโอโรสมีสีส้ม เจือด้วยจึงทำให้ความรักอันบริสุทธิ์เปลี่ยนเป็นรักที่ทรงพลัง อำนาจแห่งความปรารถนา แรงดึงดูดแห่งรัก อำนาจแห่งเสน่ห์ มันจึงไม่เป็นมงคลนัก หากจะนำสีดังกล่าวมาตกแต่ง ห้องนอนของคู่บ่าวสาว เชื่อกันว่า จะส่งผลให้เกิดรักสามเส้า ใครบางคนอาจตกหลุมรัก หรือติดบ่วงเสน่ห์ ผู้ที่ไม่ใช่คู่ครอง ของตนสำหรับวัยหนุ่มสาว ที่ยังไม่มีครอบครัว สีโอโรสหมายถึงความ มีเสน่ห์ และมนุษย์สัมพันธ์ที่ดี มีมิตรสหายมาก สีโอรสในที่นี้หมายถึง สีของดอก ท้อนั่นเอง
ในทางจิตวิทยา วิเคราะห์ได้ว่าได้รวมเอาคุณลักษณะทั้ง3 สีด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นความอ่อนหวานของสีชมพู ความสดใส ความปรารถนา ของสีเหลือง และความร้อนแรง มีพลังของสีแดง ดังนั้นจึงไม่น่าแปลกที่ ฮวงจุ้ย จะตีความไว้เช่นนั้น

สีฟ้า

ชาวจีนมักจะมองสีฟ้าว่าเป็นสีแห่งการเปลี่ยนแปลงและเจริญเติบโตเฉกเช่นเดียวกับสีเขียว มีไม่น้อยที่คิดว่าสีฟ้าเป็น สีแห่งฤดูใบไม้ผลิ การสวมชุดสีฟ้า ในช่วงเวลา ดังกล่าวจึงเป็นเสมือน การต้อนรับฤดูกาลใหม่ ทว่ายังมีบางกลุ่มที่ไม่นิยม สีฟ้าเนื่องเพราะคิดว่าสีฟ้าเป็นสีแห่ง ความโศกเศร้า
ในทางจิตวิทยา มองว่าสีฟ้าเป็นสีแห่งความสดชื่น ปลอดโปรงโล่งสบายและสดใส จึงพ้องกับความคิดที่ว่า สีฟ้าเป็นสีแห่ง ฤดูใบไม้ผลิ และการที่บางคน มองว่า สีฟ้าเป็นสีแห่งความโศกเศร้านั้น น่าจะเป็นเพราะ เป็นสีอยู่ในโทนอ่อน มีความเข้ม ของสีน้อยขาดความโดดเด่น ไม่มีผลในการกระตุ้นให้เกิด ความกระตือรือร้น เช่นเดียวกับสีเข้มๆ บางสี เช่นสีแดงนั่นเอง

สีเขียวอมฟ้า

สีเขียวเป็นสัญลักษณ์แทนธาตุไม้ ดังนั้น มันจึงหมายถึงความเจริญเติบโตหรือการเปลี่ยนแปลงไปสู่สิ่งใหม่ที่ดีกว่า สีแทน ความหม่นหมอง แต่เมื่อมันมาอยู่ รวมกันก็จะเกิดความหมายใหม่ที่ดีๆ เพราะสีเขียวอมฟ้านั้น ไปพ้องกับสีของใบไผ่ เป็นไม้มงคลของชาวจีน ชาวจีนมีความเชื่อว่าสีเขียวอมฟ้าเป็นสีแห่งความ อ่อนเยาว์
ในทางจิตวิทยา ได้รวมเอาคุณลักษณะของหลายสีเข้าด้วยกัน ได้แก่ สีเหลือง สีน้ำเงิน สีขาว แม้สีฟ้าจะถูกมองว่าหม่น หมอง แต่เมื่อได้ความสดใส จากสีเหลือง เข้ามาช่วยแล้ว ก็ทำให้สีเขียวอมฟ้า ช่วยกระตุ้นอารมณ์ ความรู้สึกให้สดชื่นได้