เซลลูไลท์ Cellulite

  • Tab 1
  • Tab 2
  • Tab 3

เซลลูไลท์ - Cellulite

เซลลูไลท์ เซลไขมันสะสมใต้ผิวหนัง ศัตรูร้ายของคุณผู้หญิงภัยร้ายที่ย่างกรายเข้ามาในร่างกายเราอย่างเงียบๆ โดยเราไม่ทันรู้ตัว ชนิดหนึ่งคือ ไขมัน และไขมันตัวดีนี่แหละ ที่ชอบเข้ามาเกาะกินทั้งร่างกายและ จิตใจของเรา โดยเฉพาะสาวๆ แล้วละก็ ปัญหานี้ถือเป็น ปัญหาระดับชาติเลย ทีเดียวก็ว่าได้ เซลลูไลท์ คือไขมัน ตัวร้ายอย่างหนึ่ง ที่ไม่ได้ทำให้ปวดใจอย่างเดียวเท่านั้น แต่กลับชวนโรคร้ายแพ็คกระเป๋า ตามมาด้วย อีกตะหาก ทั้งนี้และทั้งนั้น จึงควรมาทำความรู้จักมักคุ้นกับศัตรูตัวฉกาจที่เรียกว่า เซลลูไลท์ กันก่อนดีกว่า เพื่อจะได้มีการ เตรียมรับมือที่ดี เพราะอย่าได้นึกเชียวล่ะว่า ฉันผอมออกอย่างนี้ ไม่มีทางเสียล่ะ ที่ไขมันจะแวะเวียนมาถาม  ไถ่สารทุกข์สุขดิบฉันได้ ทุกคนมีสิทธิ์เท่าเทียม กันหมด นั่นอาจเป็นคำพูดที่เจ้าไขมันแอบคิดในใจก็เป็นได้

เซลลูไลท์คืออะไร เป็นคำถามที่อาจเชยอยู่บ้าง แต่เชื่อเถอะมีคนอีกจำนวนมาก ที่ไม่เข้าใจความหมายที่แท้จริง คำๆ นี้เป็นคำที่ ศูนย์สุขภาพยุโรป ใช้เรียกการที่มีไขมันสะสม ในบริเวณต้นขาและก้น จริงๆ แล้วออกเสียง เซล-ลู-ลีท ซึ่งหมายถึง ลักษณะที่ยื่น ออก มาแข็งๆ ภายใต้ผิวหนัง บริเวณต้นแขน หลัง คอ ไหล่ ต้นขา ท้องน้อย พบแม้แต่บริเวณลำคอและหน้า เป็นเซลล์ไขมันที่พองตัว เพราะมีกรดไขมันและสารพิษสะสมอยู่ แล้วจะรวมตัว กันเป็นก้อน ทำให้ผิวหนังดูน่าเกลียดน่ากลัวทีเดียวล่ะ อ้อ หลายคนอาจคุ้นกับชื่อ "ผิวเปลือกส้ม" หรือ "ผิวหนังไก่" มากกว่าก็ได้ หลายคนอ่านมาถึงตรงนี้อาจ ร้องยี้ ผิวนูนๆ แข็งๆ มันน่ากลัวเหลือเกินสำหรับผู้หญิง แล้วมันเกิดขึ้นได้อย่างไรล่ะ รศ.ดร.นพ.กำพล ศรีวัฒนกุล อาจารย์ประจำภาควิชาเภสัชวิทยา คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล บอกกับผู้จัดการออนไลน์ว่า เซลลูไลท์มักจะอ่อนไหวเหลือเกิน กับฮอร์โมนเพศหญิง ที่น่าห่วงหน่อยก็ผู้หญิงหลังคลอด และหญิงที่รับประทาน ยาคุมกำเนิด หรือเรียกได้ว่า จำพวกฮอร์โมนเสริมทั้งหลาย ที่เข้าไปในร่างกายผู้หญิงเรา จะมีโอกาสเกิดเซลลูไลท์ได้มาก นพ.กำพลได้ย้ำ นักหนาถึง ฮอร์โมนเสริมโดยเฉพาะ เอสโตรเจน ซึ่งจะทำให้มีการสะสมไขมันในบริเวณเนื้อเยื่อต่างๆ เพิ่มขึ้น นอกจากนี้ยังมีผลทำลาย ความแข็งแรง ของเนื้อเยื่อเกี่ยวพัน ซึ่งในที่สุด จะทำให้การขจัดน้ำเหลืองมีประสิทธิภาพลดลง นอกจากการที่ได้รับ ฮอร์โมนเพิ่มขึ้นใน รูปแบบของยาแล้ว ยังมีการนำเอาฮอร์โมนจำพวกนี้ มาใช้ประโยชน์ในการเร่งการเจริญเติบโตของสัตว์เศรษฐกิจ อย่าง "หมู" เมื่อได้รับ ฮอร์โมนนี้ แล้วจะทำให้น้ำหนักตัวของหมู เพิ่มขึ้น อย่างพรวดพราดเป็น 120 กิโลกรัม เพียงแค่เวลา 4 เดือนครึ่งเท่านั้น ที่ว่าเท่านั้นก็เพราะว่า ปกติการทำน้ำหนักของหมูให้ถึง 120 นั้นไม่ใช่เรื่องง่ายนักต้องใช้เวลาถึง 18 เดือนเลยทีเดียว และก็อย่างที่รู้ๆ กันว่า หมู ถือได้ว่าเป็น อาหารยอดนิยมอย่างหนึ่งเลยของคนไทย ดังนั้นจึงไม่น่าแปลกนักที่คนไทยจะได้รับฮอร์โมนเหล่านี้เข้าไปพร้อมๆ กับการรับประทานอาหารใน 1 มื้อที่มีเนื้อหมู และก็ไม่น่าตกใจมากนักเช่นกัน ถ้าจะบอกว่า ผู้ชายก็เริ่มเป็นเซลลูไลท์ กันบ้างแล้วเหมือนกัน วิถีชีวิตการบริโภคของคนไทย ที่เปลี่ยนไป ดูจะเป็นอีกเหตุผลหนึ่งเลยก็ว่าได้ที่ทำให้ เซลลูไลท์ออกอาละวาดในหมู่สาวๆ อาหารฟาสต์ฟู้ด เป็นตัวอย่างที่เด่นชัดที่สุด เพราะตั้งแต่ อาหารเหล่านี้เข้ามาในเมืองไทยเมื่อหลายสิบปีก่อน โรคร้ายต่างๆ ก็ยกขบวนตามกันมาเป็นทิวแถว สร้างความเดือดร้อน ให้กับผู้ที่ตกเป็นเหยื่อแทบทั้งสิ้น เซลลูไลท์จึงดูจะเป็นโรคอีกอย่างหนึ่ง ที่เป็นผล กระทบที่ชัดเจนอย่างมาก เซลลูไลท์ทำให้เกิดปัญหาผิวพรรณ และรูปร่างดูน่าเกลียด ทำให้ผู้หญิงที่ประสบปัญหานี้ขาดความมั่นใจในตัวเองไปเลยก็ว่าได้ จากการวิเคราะห์ทางจิตวิทยาพบว่า การขาดความมั่นใจในตัวเอง จะทำให้เกิดปัญหาเศร้าหมองทางอารมณ์อย่างรุนแรงได้ พลอยทำให้หงุดหงิด และพาลเอากับคนใกล้ชิดได้ นะเนี่ย ที่สำคัญอีกอย่างหนึ่ง เซลลูไลท์เกิดจากการสะสมของไขมัน จึงมีผลทำให้ไขมันในเลือดสูงขึ้นด้วย เป็นเหตุให้เกิดการอุดตัน ของหลอดเลือด และสถิติของผู้หญิงปัจจุบันจะมีมากขึ้นที่เสียชีวิตด้วยโรคหัวใจขาดเลือดเพิ่มสูงขึ้น นอกจากนี้แล้ว เกี่ยวกับระบบน้ำเหลือง ซึ่งเป็นระบบขจัดไขมันส่วนเกินที่สำคัญ หากการไหลเวียนของน้ำเหลือง มีประสิทธิภาพน้อยลง จะส่งผลทำให้การไหลเวียนของระบบเลือดดำ มีปัญหาไปด้วย ดังนั้นการที่เส้นเลือดขอดและเท้าบวม คือผลพลอยได้ที่เกิดจากเซลลูไลท์นั่นเอง อ่านมาถึงตรงนี้แล้ว ก็คงต้องหันไปถาม ตัวเองแล้วล่ะ ว่า เราจะสำรวจตัวเองกันได้อย่างไร ง่ายๆ คือการสำรวจดูว่า บริเวณต้นขา ก้น ซึ่ง 2 บริเวณนี้จะเกิดขึ้นมากที่สุด หากลองขยุ้ม หรือบีบเนื้อขึ้นมา จะเห็นเป็นรอยนูนๆ ถ้าอาการแรกเริ่มจะเป็นเฉพาะตอนที่ขยุ้ม แต่ถ้ารุนแรงขึ้นมาอีกหน่อย จะเห็นริ้วรอยเฉพาะ เวลายืนเท่านั้น ถ้านอนราบจะมองไม่ออก แต่ถ้ารุนแรงที่สุด จะสามารถเห็นได้อย่างชัดเจนไม่ว่าจะนั่ง นอน หรือยืน และจะมีไขมันพอก บริเวณขาหนีบ อะๆ จะให้เวลาสำรวจตัวเองกันสักแป๊ปหนึ่งก่อนที่จะมาดูกันว่า แล้วเราจะป้องกันตัวเองจาก เจ้าเซลลูไลท์ตัวร้ายกันอย่างไรดี

นพ.กำพล มีข้อคิดดีๆ ให้สำหรับผู้ที่เริ่มเป็น และกำลังวิตกกังวลกับปัญหานี้อยู่ เริ่มต้นกันด้วย การเลือกรับประทานอาหารที่ช่วยขจัดเซลลูไลท์ โดยเพิ่มปริมาณผลไม้สด ผัก เมล็ดธัญพืช ดื่มน้ำผลไม้มากๆ หลีกเลี่ยงอาหารประเภทนม เนย น้ำตาลบริสุทธิ์ คาเฟอีน อาหารสังเคราะห์ สารเคมีในอาหาร สารกันเสีย สารปรุงแต่งรส และอาหารมันๆ เอนไซม์ ที่ได้รับจากผลไม้และผัก จะช่วยขจัดการสะสมไขมัน โดยไปย่อยสลายออก อย่างมีประสิทธิภาพ รู้จักทำความสะอาดตัวเองบ้าง โดยการล้างพิษด้วย การทานอาหารที่กากใยสูง นอกจากนี้การหายใจเข้าออกลึกๆ จะช่วยนำพาออกซิเจนเข้าสู่เนื้อเยื่อต่างๆ ร่างกายและทำให้การเผาผลาญพลังงานเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ การนวดก็มีส่วนสำคัญที่จะทำให้ทิศทางการไหลเวียนของน้ำเหลืองดีขึ้น ช่วยขจัดไขมันส่วนเกินออกได้อย่างมีประสิทธิภาพทีเดียว ที่สำคัญที่สุดอีก 2 อย่างคือ การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ จะช่วยให้กล้ามเนื้อมีผลทำให้น้ำเหลืองถูกขับออกได้ดีขึ้น และการดื่มน้ำ น้ำอัดลม แอลกอฮอล์เนี้ย เลิกไปได้เลยไม่ต้องเสียดายหรอก แลกกับการมีผิวพรรณสวยๆ รูปร่างที่ดีๆ ดีกว่าเป็นไหนๆทีเดียว หากทำได้ตามที่ นพ.กำพล แนะนำแล้วล่ะก็จะนับว่าดีกับร่างกายของคุณอย่างที่สุด เพราะไม่ว่าเซลลูไลท์จะอยู่กับคุณหรือไม่ในตอนนี้ การรับประทานอาหารที่ดีมีประโยชน์ และหมั่นออกกำลังกายอยู่เสมอ ก็จะทำให้คุณมีผิวพรรณสดใส เนียนเรียบ ไร้ร่องรอย ที่สำคัญคุณจะมีสุขภาพ และรูปร่างที่ดีตลอดไป อย่างแน่นอน

 สาเหตุของการเกิดเซลลูไลท์ ( Causes of Cellulite ) 

คำนิยาม ( Defiition ) เซลลูไลท์ ( Cellulite ) คือการรวมตัวกันของไขมันและเก็บสะสมไว้ ซึ่งเป็นผลำทให้มีปริมาณ ของไขมันเพิ่มขึ้น เซลลูไลท์แบ่งออกเป็น 2 ประเภทคือ

1. Hypertropic Cellulite เกิดจากการรวมตัวกันของไขมันอย่างไม่เป็นระเบียบและมีปริมาณ มากเกินไป โดยส่วนใหญ่เซลลูไลท์ประเภทนี้ จะถูกขจัดออกไปได้ด้วยการทำ Slimming Treatment ซึ๋งเป็นวิธีการที่เหมาะที่สุด 
2. Hyperplastic Cellulite เกิดจากการที่ร่างกายเก็บไขมันสำรองไว้ในปริมาณมาก และเป็น การยากที่จะทำ การขจัดไขมันส่วนนี้ออกไป โดยปกติเซลลูไลท์ชนิดนี้จะเป็นลักษณะกรรมพันธ์

เซลลูไลท์ทั้ง 2 ชนิดนี้สามารถเกิดขึ้นได้พร้อมกันในบุคคลเดียวกัน โดยปกติเซลลูไลท์จะปรากฎในลักษณะ ของก้อนไขมัน พบได้มาก บริเวณสะโพก ต้นขา ต้นแขน แต่จะไม่ค่อยพบบริเวณข้อเท้า ในบางครั้งพบได้ใน บริเวณหลัง ทำให้หลังโกง เซลลูไลท์เกิดขึ้นเนื่องจาก การสะสมของไขมันในเยื่อเก็ไขมัน ( Adipose Tissue ) ซึ่งรักษาความเป็นกรดไขมันอิสระไว้ในรูปของไตรกลีเซอไรด์ (Triglycerids ) และผสมผสานกันอยู่ในรูปของไขมัน ( ภายใต้ผิวหนัง )ไขมันเหล่านี้สามารถขัจัดออกไปได้โดยการเผาผลาญของร่างกาย ถ้าได้รับสาร อาหารพอดีกับความต้องการของร่างกาย นอกจากนี้ยังต้องเข้าใจด้วยว่า การทำ Slimming Treatment นั้นจะต้องมีการกำหนด ปริมาณอาหาร และการออกกำลังกายควบคู่กันไปด้วยไขมันจะจับตัวกันเป็นก้อนกลม และมีความแข็ง ดังนั้นการแทรกซึมของ ผลิตภัณฑ์ ที่จะเข้าไปสลายไขมันส่วนเกินนี้จึงเป็นไปได้ยาก เมื่อปริมาณของกลุ่มไขมันมากขึ้น หลอดเลือดและปลายประสาท ก็จะถูกกดทับ เป็นอุปสรรคต่อการขยายตัวของหลอดเลือด และก่อให้เกิดอาการเจ็บร่วมด้วยเซลลูไลท์จะเริ่มจากการรวมตัวของไขมัน แต่จะแทรกซึมไปกับน้ำ เมื่อภาวะโภชนาการมีประมาณของน้ำตาลและไขมันมี่จำนวนมากเกินความต้องการ ร่างกายก็จะเก็บสะสมไว้ในรูปของไตรกลีเซอไรด์ (Triglycerids) เมื่อความต้องการพลังงานมีมากขึ้น ไตรกลีเซอไรด์ซึ่งเก็บสะสมไขมันไว้ก็จะสลายตัวลงเปลี่ยนไปเป็นพลังงาน 

ผลของการเกิดเซลลูไลท์ 

เมื่อไขมันเริ่มมีการเพิ่มจำนนวนมากขึ้น หลอดเลือด ท่อน้ำเหลือง และก้อนไขมันก็จะเกิดการเบียดกัน การ ไหลเวียนของโลหิตไม่สม่ำเสมอ การถ่ายเทของเสียและการแทรกซึมของน้ำก็จะช้าลง เนื้อเยื่อขาดอ๊อกซิเจน ขับถ่ายของเสียได้น้อย ไขมันจะพอกพูนและสะสมอยู่ในเนื้อเยื่อ เส้นโลหิตแดงจะโป่งพองผนังเส้นเลือดดำ จะบางลงท่อน้ำเหลืองที่ถูกเบียดทับ ทำการถ่ายของเสียได้ช้าลง แต่ปริมาณน้ำจะเพิ่มขึ้น เนื่องจากการซึมเข้าไปได้ พิษต่าง ๆ กับน้ำจะรวมตัวกันโดยสามารถสังเกตุได้จากอาการดังนี้

: รู้สึกเมื่อยล้าที่ขา

: ห้อเลือด

: บวมตามข้อ: มีอาการบวมน้ำ

การแข็งตัวของ ของเหลวที่อยู่รอบ ๆ ก้อนไขมันทำให้การผลัดเปลี่ยนเซลเป็นไปได้ช้าลงนอกจากนี้จังทำให้ การซึมซาบของผลิตภัณฑ์ ที่ใชัในการขจัดไขมันส่วนเกินก็เป็นไปได้ไม่มากนัก การเพิ่มปริมาณของไขมันทีละเล็กทีละน้อย รวมกับฮอร์โมนในร่างกายของผู้หญิง จะช่วยกันทำให้เกิดมีไขมันส่วนเกิน ปรากฎการณ์เหล่านี้จะทวีความรุนแรงขึ้นเมื่อมีองค์ประกอบคือ 

: ภาวะโภชนาการที่มากเกินไป ( ในส่วนของไขมันและน้ำตาล ) 
: กรรมพันธ์ 
: เส้นเลือดเปราะ แตกง่าย 

เซลลูไลท์จะอยู่ในสภาพไม่เป็นระเบียบขาดความกระชับ ยืดหยุ่น อันเนื่องมาจาก
: การลดน้อยลงของการสร้างอีลาสตินไฟเบอร์ของไฟโบรบลาสท์
: การสร้างเซลล์ที่ช้าลง
: ผิวขาดอ๊อกซิเจน

เซลลูไลท์กับสาว 12 ราศี

เซลลูไลท์ !!!! ไขมันตัวร้ายที่เกาะติดอยู่ตามร่างกายเรานั้น คงเป็นปัญหาสร้างความหนักอกหนักใจให้กับสาว ที่ให้ความสำคัญเกี่ยวกับ เรื่องรูปร่างหน้าตา บุคลิกภาพ และสุขภาพเป็นแน่แท้ หลายคนคงทราบกันดีว่าเซลลูไลท์เกี่ยวข้องกัน กับพฤติกรรมใน การรับประทานอ าหารของเราๆท่านๆ ผู้เชี่ยวชาญได้ตั้งข้อสังเกตว่าพฤติกรรมการกินนี่แหละที่มีผลต่อการเกิดเซลลูไลท์

แต่เชื่อกันหรือไม่คะว่า ราศีเกิดนั้นมีผลต่อพฤติกรรมการบริโภคอาหารแต่ละมื้อของเรา นั่นเป็นสาเหตุที่ทำให้เรามีปัญหา ไขมันในส่วน ที่ต่างกันนั่นเอง เชื่อไม่เชื่อแม่นไม่แม่น !!! มาลองพิสูจน์พร้อมล้วงเคล็ดลับปรามเจ้าเซลลูไลท์ตัวร้ายกันดีกว่า

ราศีเมษ มักเป็นคนใจร้อน เร่งรีบ จนเหมือนบางครั้งไม่ได้ดูแลตัวเอง จึงต้องระวังสุขภาพไว้บ้าง จริงๆแล้วเป็นคนที่ชอบออกกำลังกาย มีทั้งออกกำลังกายโดยการเล่น และเล่นถ้อยคำ คือเป็นคนชอบเคียงหรือทะเลาะกับคนอื่น เพราะเป็นคนพูดตรงไปตรงมา พอเหนื่อยก็กิน และกินด้วยความเร่งรีบแถมเป็นคนที่ใครชวนกินอะไรก็กิน พุงหรือหน้าท้องเลยจะมีปัญหา ควรดูแลบริเวณเอว และหน้าท้องเป็นพิเศษ

ราศีพฤษภ เป็นคนรักสวยรักงาม อ่อนไหวเรื่องความรัก ชาวราศีนี้เป็นทั้งนักกินและนักดื่ม เรื่องกินมีผลต่อเขามาก จึงทำให้อ้วนและขี้เกียจ รูปร่างเสียสัดส่วน บางคนจะกินช้า แต่กินบ่อยซึ่งยิ่งหนักเข้าไปใหญ่ ระวังการสะสมของไขมันทั้งตัว คือตั้งแต่ใต้คอ ท้องแขน สีข้าง เอว พุง และต้นขาใหญ่ ซึ่งขึ้นอยู่กับว่าร่างกายส่วนไหนไม่ค่อยได้ใช้งานจะมีการสะสมมากเป็นพิเศษ

ราศีเมถุน เป็นคนว่องไวใจร้อน ชอบเข้าสังคมพูดเก่งและมักจะตามใจตัวเองจนเกินไป ชอบทำอะไร 2 อย่างในเวลาเดียวกัน จึงสามารถกินด้วยทำงานไปด้วยได้ บางคนชอบทำอาหารและทำเก่งด้วย บางคนนอนดึกตื่นสาย ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้อ้วนโดยไม่รู้ตัว ทั้งๆที่บุคลิกเป็นคนที่ดูทำอะไรคล่องแคล่วว่องไว ดูน่าจะเพรียวลม สมส่วนแต่อย่าลืมดูแลบริเวณใต้ท้องแขนกับต้นขาเป็นพิเศษ

ราศีกรกฎ อารมณ์ไม่แน่นอน ขี้ระแวง เก็บรายละเอียดต่างๆรอบตัวได้ดี แม้แต่เรื่องกินก็จะกินได้เรื่อยๆบ่อยๆ บางทีอาหารไม่ย่อยหรือเป็นโรคกระเพาะได้ เป็นนักกักตุนอาหารเพราะชอบเตรียมพร้อม ไม่ค่อยออกไปไหน จึงควรระวังที่สุดคือในส่วนของบั้นท้าย หรือสะโพกจะใหญ่นั่นเอง รวมไปถึงต้นขา และหน้าท้องด้านบนอีกด้วย

ราศีสิงห์ หยิ่งทะนง โกรธง่าย ไม่ง้อใครถ้าไม่จำเป็น อิสระไม่ชอบขึ้นอยู่กับใคร มีนิสัยใช้เงินอย่างไม่อั้น อย่างเรื่องการกินก็เช่นกัน ถ้ากินมากระวังไขมันสะสมที่พุงซึ่งเป็นเรื่องปกติ แต่ถ้าทานน้อยก็มักจะลืมดูแลหน้าท้องด้านบน สีข้าง รวมไปถึงไขมันที่สะสมอยู่ด้านหลังและช่วงต้นขาด้านหลัง

ราศีกันย์ ราศีแห่งการรับใช้และแบกรับภาระของคนอื่น ชอบทำอะไรตามใจตนเอง และมักโดนเอาเปรียบจากคนที่รักอยู่เสมอ ทำงานเก่งและก็กินเก่งด้วย กินได้เรื่อยๆ จึงมักเป็นโรคเกี่ยวกับช่องท้อง ท้องร่วง อาหารไม่ย่อย บางคนชอบซื้อของโปรดสะสมไว้ ซื้อทีละเยอะๆ บางคนรู้จักควบคุม พิถีพิถันมากในเรื่องอาการการกิน และมีรสนิยมในเรื่องการกินตลอดจนเรื่องการปรุงรสไม่แพ้แม่ครัวชาววังเดียว ท้องน้อย พุง สีข้าง และแผ่นหลังจึงเป็นที่สะสมไขมันของราศีนี้

ราศีตุลย์ เป็นคนตรงไปตรงมา ซื่อสัตย์ รักความยุติธรรม แต่เชื่อคนง่าย รักใครก็รักง่ายหลงแบบไม่ลืมหูลืมตา เป็นคนโรแมนติค แต่ถ้าเลิกเลิกเลยดื้อๆชอบเอาแต่ใจตัวเอง ชอบเข้าสังคม อาจเจ้าชู้ด้วย ชอบทานลูกกวาด ขนมที่มีน้ำตาล ไอศกรีมที่มีครีมราดหน้าเยอะๆ ดื่มก็เก่งกินของหวานก็เก่ง จึงมักมีปัญหาที่ท้องน้อย เอวและบั้นท้าย ควรดูแลดีๆ

ราศีพิจิก เป็นราศีแห่งความกตัญญู เสียสละ จงรักภักดี และความคลั่งไคล้ ไม่ชอบเปิดเผยถ้าไม่สนิทกันจริง แต่มีนิสัยขี้สงสัยอยู่ตลอดเวลา อารมณ์ร้ายปากจัด ตรงไปตรงมา ถ้าโกรธหรือหงุดหงิดจะกิน และชอบกินตอนกลางคืน ชอบรับประทานอาหารรสจัดจ้านสะใจ เพราฉะนั้นบั้นท้ายจะใหญ่ สะโพกตัน และพุงที่ตามมาอย่างไม่ต้องพูดถึง

ราศีธนู ราศีแห่งคุณงามความดี มักเป็นคนที่โชคดีในด้านการเงินอารมณ์ดี หนักแน่น รักสงบ รักอิสระ ไม่ชอบมีเจ้านาย และต้องเดินทางบ่อย โดยเฉพาะต่างประเทศ เลยได้ลิ้มชิมรสอาหารแปลกๆบ่อย และถ้าจะหาตัวเค้า เพียงแต่คุณไปตามงานแล้วมองหาตามกลุ่มที่สนุกสนาน ก็จะพบเค้าสุขีอยู่ท่ามกลางฝูงชน แถมมีของกินเต็มปาก เป็นคนที่มีอารมณ์ขันอยู่เสมอ เพราะชอบสังคม ชอบกินชอบดื่มมาก ทำให้อ้วนลงพุงได้ง่าย แถมมีไขมันมากที่ต้นขา สะโพก และบ้านท้าย

ราศีมังกร ราศีแห่งความอดทน ชอบการแข่งขัน ดูจะหยิ่งถือตัวแต่จริงๆแล้วเป็นคนที่ทำอะไรง่ายๆ แต่รักเกียรติยศมากชอบเที่ยวที่แปลกๆก็เลยได้ชิมของแปลกไปด้วย แถมเป็นคนที่ค่อนข้างขี้เหนียวประหยัดและหักห้ามใจได้ดีเป็นพิเศษเลยไม่ค่อยมีพุง แต่จะมีไขมันสะสมที่ต้นขา ใต้ท้องแขนและด้านหลังที่ไม่ค่อยมีใครสังเกตเห็น

ราศีกุมภ์ ราศีแห่งการรวมกลุ่มและการประดิษฐ์คิดค้นสิ่งใหม่ๆ หุนหันพลันแล่น คิดอะไรแปลกใหม่ตลอดเวลา ร่าเริง เพื่อนฝูงเยอะ ชอบไปดูไปรู้ของแปลกๆ และชอบซื้อของเกินความจำเป็น เรื่องกินก็เช่นเดียวกัน ระวังเอว สะโพกด้านบน ต้นขา และช่วงสีข้างด้านหลังจะมีเนื้อมากเกินความจำเป็น

ราศีมีน ราศีแห่งความละมุนละไมเห็นอกเห็นใจและช่วยเหลือสังคม เมตตาอารีเป็นมิตรกับคนง่าย คล้อยตามไว้ใจและเชื่อคนง่าย ใครพาไปกินไหนก็ไปด้วยง่ายๆ ราศีนี้จึงรับประทานอาหารเก่งเป็นพิเศษอีกด้วย บางคนกินเก่งแต่ไม่ค่อยอ้วน แต่จะมีไขมันสะสมอยู่เป็นจุดๆ ควรระวังในส่วนท้องน้อย ช่วงเอว และบั้นท้ายช่วงล่างที่ใหญ่จนน่าตกใจ

เซลลูไลท์วายร้ายของคุณผู้หญิง?
ในสายตาคนทั่วไป การพิจารณารูปร่างใครสักคนว่าจะดีหรือได้สัดส่วนมีเกณฑ์อย่างไร?
เซลลูไลท์วายร้ายของคุณผู้หญิง?

เพราะหากมีเกณฑ์เหมือนดาราหรือนางแบบในปัจจุบัน คาดว่าผู้หญิง 80% อาจไม่ผ่าน แม้ว่าค่าดัชนีมวลกาย (BMI) หรือความสมดุลระหว่างน้ำหนักและส่วนสูงจะต่ำกว่ามาตรฐานอยู่แล้วก็ตาม ซึ่งกระแสนิยมหุ่นผอมเพรียวอย่างที่เป็นอยู่ทุกวันนี้ ทำให้หลายคนกังวลเรื่องรูปร่างเกินพอดี
หากย้อนกลับไปสมัยอารยธรรมโบราณ เช่น กรีก โรมัน ศิลปกรรมมากมายสะท้อนภาพลักษณ์ผู้หญิงที่สวยงามต้องมีรูปร่างท้วม ต่อมาความคิดนี้ได้เปลี่ยนไปเมื่อประเทศตะวันตกได้รับอิทธิพลแฟชั่น ผู้หญิงใส่เสื้อผ้าเปิดเผยเนื้อหนังมากขึ้น เกิดการเปรียบเทียบรูปร่าง กำหนดรูปร่างในอุดมคติ จนเป็นปัจจัยที่ทำให้ผู้หญิงรุ่นใหม่กลัวความอ้วนมากกว่าการเจ็บป่วย แม้คนที่น้ำหนักปกติจนถึงขั้นผอมก็หันมาควบคุมน้ำหนัก ขจัดไขมันส่วนเกิน ซึ่งล่าสุดเกิดกระแสขจัดเซลลูไลท์ เพื่อให้สวยสมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น

ไขมันส่วนเกิน VS เซลลูไลท์?

อันดับแรกต้องเข้าใจว่า ไขมันส่วนเกินกับเซลลูไลท์ ไม่เหมือนกัน ไขมันส่วนเกินหมายรวมถึงไขมันที่มากเกินปกติ อาจสะสมอยู่ในชั้นใต้ผิวหนังทั้งลึกและตื้น รวมถึงสะสมที่อวัยวะภายในร่างกาย เช่น ตับ ภาวะนี้เกิดได้กับคนทุกเพศ ทุกวัย ถ้ามีไขมันส่วนเกินสะสมไปทั่วร่างกาย สามารถเห็นส่วนโค้งของก้อนไขมันสะสมยื่นนูนชัดเจน ซึ่งผิวหนังบริเวณนั้นก็อาจเรียบตึง และที่สำคัญสามารถส่งผลกระทบต่อสุขภาพ เช่น ปัญหาข้อเสื่อม ปวดหลัง เส้นเลือดขอด โรคตับ แต่สำหรับคำว่าเซลลูไลท์ ที่ใช้เรียกกันอย่างแพร่หลายในปัจจุบัน จริงๆ แล้วไม่ใช่ศัพท์บัญญัติทางการแพทย์หรือทางวิทยาศาสตร์ เป็นการเรียกเซลล์ไขมันที่มีขนาดใหญ่ขึ้นในชั้นล่างของผิวหนัง ผิวหนังบริเวณนั้นจึงถูกดันให้นูนขึ้นก่อให้เกิดผิวลักษณะเป็นคลื่นตะปุ่มตะป่ำคล้ายผิวเปลือกส้ม สามารถพบได้ทั้งคนอ้วนและไม่อ้วน โดยเฉพาะผู้หญิงจะพบมากบริเวณต้นขาและสะโพก เซลลูไลท์ไม่ก่อให้เกิดผลเสียทางสุขภาพแต่อย่างใด ยกเว้นเรื่องความสวยงามหรือความมั่นใจเท่านั้น

ทำไมถึงเกิดเซลลูไลท์ ?

ชั้นใต้ผิวหนังส่วนใหญ่ประกอบด้วยเซลล์ไขมันและเนื้อเยื่อ ซึ่งเซลล์ไขมันจะเรียงกันเป็นกลุ่มก้อน (fat lobule) มากมาย โดยมีเส้นใยเนื้อเยื่อเกี่ยวพันหุ้มรอบๆ อีกที เมื่อเรารับประทานไขมันหรือคาร์โบไฮเดรตมากเกินไป เซลล์ไขมันเหล่านี้ก็จะพองตัวและอาจขยายขึ้นได้มากกว่า 3 เท่าของขนาดปกติ เนื้อเยื่อไขมันจึงดันตัวออกนอกกรอบ แต่เส้นใยที่ขึงอยู่นั้นไม่ยืดตาม ทำให้เกิดการรัดตึงในบางแห่งจนเห็นริ้วคลื่นบนผิวหนังได้ โดยเฉพาะกับผู้หญิงที่มีผิวบางกว่าผู้ชายจะเห็นรอยได้ชัดเจน และเมื่อมีการสะสมมาก เซลล์ไขมันที่ก่อตัวผิดปกติจะเบียดหลอดเลือดและท่อน้ำเหลืองทำให้เลือดไหลเวียนไม่สม่ำเสมอ การถ่ายเทของเสียผ่านท่อน้ำเหลือง ระบบแลกเปลี่ยนสารต่างๆ ระหว่างเซลล์เสียสมดุล โครงสร้างเนื้อเยื่อของเซลล์ใต้ผิวหนังเสื่อมสภาพและขาดความกระชับยืดหยุ่น
วิธีขจัดไขมันส่วนเกินและเซลลูไลท์
วิธีลดไขมันส่วนเกินที่ได้ผลดีที่สุดคือ การออกกำลังกายและควบคุมอาหาร แต่สำหรับปัญหาเซลลูไลท์แม้ว่าควบคุมอาหารก็ไม่สามารถขจัดได้ทั้งหมด ยกตัวอย่างเช่น ผู้หญิงรูปร่างสมส่วนที่ควบคุมอาหารก็ยังพบว่ามีเซลลูไลท์ ทั้งนี้เพราะมีปัจจัยหลายด้านเกี่ยวข้อง เช่น พฤติกรรมการกิน พันธุกรรม ฮอร์โมน การตั้งครรภ์ การสูบบุหรี่ ฯลฯ อย่างไรก็ตามการออกกำลังกายเป็นประจำ สามารถแก้ไขปัญหาไขมันส่วนเกินได้ทั้งในระยะสั้นและระยะยาว โดยแปรรูปเนื้อเยื่อไขมันที่สะสมในร่างกายออกมาใช้เป็นพลังงาน และเสริมสร้างกล้ามเนื้อในชั้นผิวหนัง ซึ่งจะเสริมความแข็งแรง เรียงตัวอย่างเป็นระเบียบมากขึ้น

ทางเลือกในการขจัดเซลลูไลท์

ปัจจุบันนี้สถานบริการความงามเสนอวิธีลัดสำหรับคนที่ต้องการดูดีแบบประหยัดเวลา มีทั้งการใช้เทคโนโลยีต่างๆ เข้ามาช่วยร่วมกับการนวดด้วยครีมและวิธีการรักษาแบบแพทย์ทางเลือก เริ่มจากหลักการการทำงานของเครื่องมือนวดกระชับสัดส่วนคือ การอาศัยเทคนิคต่างๆ เช่น พลังงานความร้อน-เย็น คลื่นความถี่ต่ำ หรือแรงดูดสูญญากาศและการนวด เพื่อกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดและน้ำเหลือง ลดการบวมน้ำและช่วยให้ไขมันใต้ผิวหนังจัดเรียงตัวใหม่อย่างมีระเบียบ ทำให้รู้สึกว่าผิวกระชับขึ้น ส่วนการใช้ครีมนวดกระชับสัดส่วน แม้ว่าจะมีบทความโฆษณาสรรพคุณของสารมากมายหลายชนิด แต่ก็ไม่สามารถหางานวิจัยที่เชื่อถือได้มาอ้างอิง จึงยังไม่มีข้อสรุปทางการแพทย์ว่าสามารถสลายหรือขจัดไขมันที่สะสมในร่างกายได้จริง อย่างไรก็ตามส่วนประกอบหลักของครีมเหล่านี้มักมาจากสารสกัดจากพืชบางชนิด ซึ่งเชื่อว่ามีผลต่อเซลล์ไขมัน เช่น theophyline ที่พบมากในชา ส่วนผสมของคาเฟอีนที่พบในกาแฟ ชา ต้นโคล่า และ aminophyline ซึ่งใช้รักษาอาการหอบหืด เป็นต้น แม้ว่าการนวดที่ถูกวิธีสามารถกระตุ้นระบบน้ำเหลืองและทำให้เลือดหมุนเวียนดีขึ้นจริง แต่การประสบความสำเร็จในการลดเซลลูไลท์ได้หรือไม่คงยังต้องขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายด้านของแต่ละบุคคล เพราะสุดท้ายอย่าลืมว่าไม่ว่าจะใช้เทคนิคลดสัดส่วนแบบใด ไขมันส่วนเกินก็ยังคงอยู่ในร่างกาย เพียงแต่อาจเรียงตัวใหม่เท่านั้น

การแพทย์ทางเลือกประยุกต์เพื่อความสวยงาม

การแพทย์ทางเลือกที่ใช้รักษาโรคตั้งแต่อดีต ได้รับการประยุกต์มาใช้ในเรื่องความสวยงามในยุคปัจจุบันมากขึ้น ยกตัวอย่างเช่น เมโสเทอราปี (mesotherapy) และคาร์บอกซีเทอราปี (carboxytherapy)

* เมโสเทอราปี (mesotherapy) คิดค้นโดย นพ.ไมเคิล ฟิสโต ชาวฝรั่งเศส เมโสเทอราปีเดิมใช้รักษาอาการปวดอันสืบเนื่องมาจากปัญหาหลอดเลือด เป็นทางเลือกในรักษาโดยใช้ยาฉีดยาเข้าผิวหนังชั้นกลางโดยตรง เรียกว่าเป็นทางเลือกในการรักษานอกเหนือจากการรับประทานยา แต่เมื่อสิบกว่าปีก่อนมีแพทย์นำมาประยุกต์ใช้ในการเสริมสวยเพื่อสลายไขมันส่วนเกิน จนกลายเป็นที่นิยมในทวีปยุโรปและอเมริกาใต้ ซึ่งยาฉีดส่วนใหญ่จะเป็นวิตามิน สารสกัดจากพืช phosphatidylcholine หรือ deoxycholate ซึ่งเชื่อว่าสามารถช่วยลดริ้วรอย ไขมันส่วนเกินและเซลลูไลท์ ด้วยหลักการเดียวกันคือ ปรับปรุงระบบไหลเวียนโลหิต ซึ่งผลข้างเคียงของการฉีดคือ รอยฟกช้ำ อย่างไรก็ตามองค์การอาหารและยาของหลายประเทศยังไม่ได้รับรองความปลอดภัยและประสิทธิภาพของการรักษา เนื่องจากยาฉีดมาจากหลายแหล่งและมีหลายขนาน ดังนั้นผู้รับบริการจึงต้องใช้วิจารณญาณให้มากโดยการปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและพึ่งพาแหล่งบริการที่ได้รับมาตรฐานเท่านั้น

* คาร์บอกซีเทอราปี (carboxytherapy) เป็นการฉีดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในชั้นผิวหนัง ซึ่งเดิมทีใช้ร่วมกับการผ่าตัดแบบส่องกล้องเพื่อขยายพื้นที่ภายในบริเวณรอบๆ จุดที่จะทำการผ่าตัด เพื่อป้องกันการกระทบกระเทือนอวัยวะอื่นๆ แต่ด้านความสวยงามเชื่อว่า การฉีดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ผ่านเข็มขนาดเล็กจะกำจัดเซลล์ไขมัน เพิ่มการไหลเวียนของเลือด แก้ไขปัญหาเซลลูไลท์และผิวลาย มีรายงานวิจัยแสดงการตรวจชิ้นเนื้อไขมันใต้ผิวหนังภายหลังการฉีดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ พบว่าเซลล์ไขมันถูกทำลายโดยตรง และเพิ่มการไหลเวียนโลหิตมายังบริเวณที่ก๊าซแทรกซึมไปขณะรักษาจึงช่วยแก้ไขปัญหาเซลลูไลท์และผิวแตกลาย วิธีนี้ ได้รับการรับรองจากองค์การอาหารและยาสหรัฐอเมริกาว่าปลอดภัย ไม่มีผลข้างเคียงใดๆ ยกเว้นหลังการฉีดจะรู้สึกอุ่น แสบและตึงๆ ผิวบริเวณชั้นไขมันใต้ผิวหนัง และควรระมัดระวังในผู้มีปัญหาโรคปอด

ได้ผลจริงหรือไม่และเห็นผลนานเพียงใด?

เป็นความจริงที่ว่า ในทางการแพทย์ไม่มีการรักษาใดที่จะได้ผลหรือปลอดภัย 100% เช่นเดียวกับวิธีขจัดเซลลูไลท์ ไม่ว่าจะอาศัยเครื่องมือนวด ใช้แรงมือนวด ครีมต่างๆ หรือกระทั่งการรักษาแบบทางเลือก ก็ใช่ว่าช่วยให้คุณมีหุ่นผอมเพรียวเหมือนนางแบบหรือคำโฆษณา เพราะคนเรามีรูปร่างต่างกัน วิถีในการดำรงชีวิตต่างกัน ฯลฯ นอกจากนี้ยังมีปัจจัยทางจิตวิทยาเกี่ยวข้องอีกด้วย ยกตัวอย่างเช่น ในการทดลองของแผนกศัลยกรรมพลาสติกที่ Bradford Royal Infirmary เวสต์ ยอร์คเชียร์ ประเทศอังกฤษ ทดสอบการขจัดเซลลูไลท์ด้วยครีมกระชับสัดส่วน ด้วยการให้ผู้หญิงที่มีปัญหาเซลลูไลท์ 35 คน ทาครีมกระชับสัดส่วนโดยทาขาทั้งซ้ายและขวา วันละ 2 ครั้ง โดยผู้เข้าร่วมทดลองไม่ทราบว่ามีกลุ่มหนึ่งทาครีมธรรมดา (ยาหลอก) และอีกกลุ่มทาครีมกระชับสัดส่วน ปรากฏว่าค่า BMI และเส้นรอบวงของต้นขาทั้งสอง ก่อนและหลังการทาครีมกระชับสัดส่วนนาน 12 สัปดาห์ ไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆทั้งสิ้น ไม่แตกต่างจากการได้รับยาหลอก แต่ผู้หญิง 3 คนจากทั้งหมดรู้สึกว่าผิวกระชับขึ้น สรุปว่าการได้รับการรักษาวิธีใดวิธีหนึ่งอยู่ ก็สามารถส่งผลดีต่อจิตใจ ดังนั้นผู้ให้บริการต่างๆ จึงใช้วิธีต่างๆ หรือให้คำแนะนำอย่างต่อเนื่องแก่ผู้ใช้บริการ เพื่อสร้างกำลังใจในการขจัดเซลลูไลท์ เช่น การคำแนะนำในการปรับปรุงการรับประทานอาหาร และความสำคัญของการออกกำลังกาย ฯลฯ

อย่างไรก็ตามการรักษาเพื่อขจัดไขมันส่วนเกินและเซลลูไลท์ด้วยวิธีต่างๆ ไม่สามารถขจัดไขมันส่วนเกินให้หายขาดได้ หากปราศจากการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการรับประทานอาหารอย่างถูกต้อง ควบคู่กับการออกกำลังกาย ก็มีโอกาสที่เซลล์ไขมันจะขยายขนาดสู่สภาพเดิมหรือมากขึ้นกว่าเดิม ส่วนปัญหาเซลลูไลท์ไม่ได้ส่งผลร้ายแรงต่อสุขภาพ ดังนั้นหากไม่หวังผลในด้านบุคลิกภาพหรือรูปร่างเหมือนดารา นางแบบ ก็ไม่จำเป็นต้องรักษา การมีสุขภาพที่ดีเริ่มจากพื้นฐานเรื่องอาหารและออกกำลังกายอย่างเหมาะสม เพียงแค่นี้ก็ทำให้รู้สึกสดชื่น แจ่มใส อ่อนวัยไปอีกหลายปี
และสำหรับสาวๆ ที่กำลังวิ่งตามกระแสแฟชั่นหุ่นผอมเพรียว ขอย้ำว่าไม่จำเป็นต้องมีสัดส่วนดูดี 100% คุณก็สามารถดูดีได้จากการแต่งกาย การเดิน ยืน นั่ง พูด และที่สำคัญความสามารถทางความคิด ซึ่งทำให้คนรอบข้างชื่นชม รักใคร่
ที่มาข้อมูล : นิตยสาร Health Today