ตั๋วเครื่องบินฝรั่งเศสราคาถูก

บริการจองตั๋วเครื่องบินฝรั่งเศสออนไลน์ ให้บริการค้นหาตั๋วเครื่องบินฝรั่งเศสราคาถูก และเปรียบเทียบตั๋วเครื่องบินทุกเส้นทาง

เราได้ร่วมงานกับ Jetradar บริษัทตัวแทนชั้นนำ บริการจองตั๋วเครื่องบินฝรั่งเศสออนไลน์ เรายืนยันว่าลูกค้าจะได้รับราคาที่ดีที่สุด ด้วยระบบค้นหาเพื่อเปรียบเทียบราคา ที่จะช่วยเพิ่มความสะดวกในการจองตั๋วเครื่องบินราคาถูก กับตัวช่วยการค้นหาเที่ยวบิน เพื่อเปรียบเทียบราคาให้ง่ายต่อการตัดสินใจ

ค้นหาตั๋วเครื่องบินจากสายการบินและเว็บไซต์ท่องเที่ยวทั่วโลกเพื่อหาราคาดีที่สุด ให้คุณได้จองตั๋วเครื่องบินราคาถูกและไม่เสียค่าธรรมเนียม

ระบบค้นหาตั๋วเครื่องบินฝรั่งเศสที่ถูกที่สุด

ระบบค้นหาจะแสดงราคาค่าตั๋วเครื่องบินไปฝรั่งเศสที่ดีที่สุดของแต่ละเดือนล่วงหน้าตามที่ตั้งค่าดังนี้สถานที่ เดินทางไป-กลับหรือไปเที่ยวเดียว ช่วงเวลาเดินทาง และบินตรงหรือไม่

ระบบค้นหาตั๋วเครื่องบินฝรั่งเศสราคาถูกแบบเจาะจงเวลา

ระบบค้นหาโรงแรมห้องพักฝรั่งเศสที่ถูกที่สุด

เปรียบเทียบราคาโรงแรมที่พักฝรั่งเศสจากเอเจนซีต่างๆ และจองโดยเลือกข้อเสนอที่ดีที่สุด! รวบรวมราคาจาก 50 เอเจนซีชั้นนำและเว็บไซต์ของโรงแรม เช่น agoda, booking.com คุณสามารถดูราคาทั้งหมดได้ที่นี่




  • การค้นหาตั๋วเครื่องบินราคาถูก
  • ขั้นตอนการค้นหาตั๋วเครื่องบินราคาถูก
  • ข้อมูลทั่วไปฝรั่งเศส

JetRadar ไม่ได้ขายตั๋วเอง JetRadar เพียงแค่ให้บริการค้นหาและเปรียบเทียบราคาตั๋วเครื่องบิน JetRadar ไม่ได้ติดตามหรือเก็บข้อมูลของคุณ และก็ไม่มีการคิดค่านายหน้ากับผู้ใช้บริการแต่อย่างใด นั่นหมายความว่าราคาของตั๋วที่คุณเห็นในหน้าเว็บไซต์หรือแอพของ JetRadar นั้น JetRadar ไม่ได้มีการบวกเพิ่มราคาแต่อย่างใด ตอนนี้คุณอาจจะสงสัยว่าแล้ว JetRadar จะได้รายได้อย่างไร? JetRadar จะได้รับรายได้จากการจองตั๋วของคุณ โดยผู้ที่จ่ายให้กับ JetRadar คือสายการบินหรือทราเวลเอเจนซีเท่านั้น JetRadar ไม่ได้คิดค่านายหน้ากับผู้ใช้บริการ เพราะฉะนั้น คุณมั่นใจได้ว่าราคาตั๋วที่คุณเห็นเป็นราคาตั๋วที่ทางสายการบินหรือทราเวลเอเจนซีชาร์จ JetRadar ไม่ได้บวกเพิ่มอย่างแน่นอนค่ะ รู้อย่างนี้แล้ว มาลองใช้ JetRadar กันดีกว่าค่ะ เพื่อประหยัดเวลาและเงินในการค้นหา เปรียบเทียบ และจองตั๋วเครื่องบินค่ะ

การค้นหาตั๋วเครื่องบินราคาถูก

  1. ซื้อตั๋วเครื่องบินล่วงหน้า ยิ่งซื้อล่วงหน้า ยิ่งประหยัด
    JetRadar ได้เก็บสถิติจากการซื้อตั๋วผ่านเว็บไซต์ของ JetRadar โดยมีจำนวนการซื้อตั๋วเครื่องบินทั้งหมดอยู่ที่ 2.5 ล้านใบสำหรับช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา จากสถิติแสดงให้เห็นว่าตั๋วที่มีวันเดินทางตั้งแต่วันศุกร์ถึงวันอาทิตย์จะ มีราคาแพงที่สุด ส่วนตั๋วที่ถูกที่สุดจะมีวันที่ออกเดินทางตั้งแต่วันอังคารถึงวันพฤหัสบดี ส่วนเวลาที่เหมาะสมที่สุดที่จะซื้อตั๋วเป็นตอนเช้าหรือไม่ก็ช่วงเย็นหลัง เลิกงาน เนื่องจากช่วงเวลาทำงาน ทางเอเจนซี่ท่องเที่ยวและสายการบินจะทำการค้นหาข้อมูลเที่ยวบินจำนวนมาก อาจทำให้เที่ยวบินที่ราคาถูกที่สุดไม่ถูกแสดงให้เราเห็น และโดยปกติแล้ว ตั๋วจะราคาถูกที่สุด หากเราจอง 6 เดือนก่อนวันเดินทางค่ะ
    ทำไม ราคาตั๋วเครื่องบินถึงเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ เดี๋ยวขึ้น เดี๋ยวลง? ที่ราคาขึ้นๆลงๆ นั้นเกี่ยวพันโดยตรงกับความต้องการของลูกค้า ยกตัวอย่างเช่น เราจะแบ่งที่นั่งทั้งหมดบนเครื่องบินออกเป็น 3 กลุ่ม เพื่อให้เข้าใจโดยง่ายนะคะ กลุ่มที่ 1 ถูกปล่อยออกมาขายในราคา A หากมีความต้องการซื้ออยู่ในระดับสูง กลุ่มที่ 2 ที่ถูกปล่อยออกมาขายจะมีราคาสูงขึ้น แต่ถ้าหากความต้องการซื้อน้อยลงมากเนื่องจากราคาที่สูงขึ้น กลุ่มที่ 3 ที่จะถูกปล่อยออกมาขาย จะมีราคาถูกกว่ากลุ่มที่ 2 อย่างไรก็ตาม ในบางช่วงเวลา เช่นช่วงปีใหม่ ราคาจะยิ่งแพงขึ้น หากไม่จองตั้งแต่เนิ่นๆ เนื่องจากความต้องการซื้อตั๋วมีมาก แต่ถ้าหากจุดหมายปลายทางที่เราจะไปไม่ได้เป็นที่นิยมมากนัก โอกาสที่ราคาจะเพิ่มสูงขึ้นนั้นมีน้อยมาก
  2. ซื้อตั๋วตอนมีโปรโมชั่น
    การ ซื้อตั๋วโปรโมชั่นก็เป็นอีกทางที่ทำให้เราได้ตั๋วราคาถูก แต่ส่วนใหญ่แล้วตั๋วโปรโมชั่นมักจะไม่ยืดหยุ่น เช่น ไม่สามารถเปลี่ยนวันเวลาได้ หรือถ้าเปลี่ยนได้ ก็ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการเปลี่ยน ซึ่งถ้าเกิดเรามีการเปลี่ยนแปลงวันเดินทางขึ้นมา เราอาจจะต้องเสียค่าใช้จ่ายในการเปลี่ยนมากกว่าการซื้อตั๋วใหม่เลยก็ได้ วิธีนี้จึงเหมาะกับผู้ที่มีการเดินทางที่แน่นอนแล้ว
  3. เที่ยวบินต่อเครื่อง เชื่อมต่อเที่ยวบิน
    วิธีนี้อาจไม่สะดวก เนื่องจากคุณต้องต่อเที่ยวบินเพื่อไปถึงจุดหมายปลายทาง แต่มันก็ทำให้คุณได้ตั๋วในราคาที่ถูกกว่าการบินตรงโดยไม่ต้องต่อเที่ยวบิน อาจถูกกว่ามากถึง 50% กันเลยทีเดียว เพียงแค่มีการเชื่อมต่อเที่ยวบินอย่างน้อย 1 เที่ยวขึ้นไป
  4. เปรียบเทียบราคาตั๋วจากหลายๆเอเยนต์ และ สายการบิน
    เดี๋ยวนี้เรามีเครื่องมือเปรียบเทียบราคาตั๋วเครื่องบิน หรือที่เรียกกันว่า flight meta search engine ซึ่งจะทำให้คุณสามารถค้นหาและเปรียบเทียบราคาตั๋วเครื่องบินได้ เพียงแค่ใช้เครื่องมือนี้ ตั๋วเครื่องบินทั้งหมดรวมถึงตั๋วเครื่องบินของสายการบินต้นทุนต่ำ (Low-cost airlines) เช่น นกแอร์, แอร์เอเชีย, โอเรียลท์ไทยและไลอ้อนแอร์ จะถูกรวบรวมให้คุณไว้ในที่เดียว คุณไม่ต้องนั่งเปิดหลายๆเว็บไซต์เพื่อเปรียบเทียบราคาอีกต่อไป เพียงแค่คุณเข้าไปที่เว็บไซต์เปรียบเทียบราคาตั๋วเครื่องบิน แล้วใส่ข้อมูลการเดินทางของคุณ จากนั้นระบบจะทำการค้นหาและเปรียบเทียบราคาตั๋วเครื่องบินให้คุณเอง โดยรวมตั๋วเครื่องบินทั้งหมด รวมถึงโปรโมชั่นตั๋วจากสายการบินและเอเจนซีต่างๆ จากนั้นคุณแค่เลือกเที่ยวบินที่คุณต้องการและจองผ่านเว็บไซต์ได้เลย เครื่องมือเปรียบเทียบราคาตั๋วเครื่องบิน (flight meta search engine) นี้จะช่วยให้คุณประหยัดเวลาในการค้นหาและเปรียบเทียบราคาตั๋วและคุณมั่นใจ ได้ว่าคุณจะได้ตั๋วราคาที่ถูกที่สุดจากสายการบินและเอเจนซี่ต่างๆ

ขั้นตอนการค้นหาตั๋วเครื่องบินราคาถูก

การค้นหาตั๋วเครื่องบินราคาถูก

  1. เลือกสถานที่ต้นทางที่ต้องการ ประเทศ เมือง (ระบบป้อนข้อมูลโดยอัตโนมัติ) เช่น
  2. เลือกสถานที่ปลายทางที่ต้องการ
  3. เลือกวันเวลาทเดินทาง และวันเวลากลับสำหรับเดินทางไปกลับ(Round Trip)
  4. เลือกจำนวนผู้โดยสารผู้ใหญ่ และเด็กหรือทารก
  5. เลือกชั้นประหยัด หรือชั้นธุรกิจ
  6. กด ค้นหา

ค้นหาและเปรียบเทียบราคาตั๋ว เพียงแค่นี้ JetRadar ก็จะค้นหาและเปรียบเทียบราคาตั๋วให้คุณ

เลือกตั๋วเครื่องบินราคาถูก

  1. ระบบจะแสดงข้อมูลของเที่ยวบินทุกสายการบินทุกเส้นทางที่ว่าง พร้อมเรียงราคาต่ำสุดและรายละเอียด
  2. นำตัวเลือกทั้งหมดมาให้คุณ เรามีฟิวเตอร์ซึ่งเป็นเครื่องมือในการกรองตั๋วให้คุณ เพื่อให้คุณได้ตั๋วตามที่คุณต้องการ คุณสามารถเลือกเวลาเดินทาง เลือกสายการบินหรือทราเวลเอเจนซี่ที่คุณชื่นชอบ เลือกว่าจะต่อเที่ยวบินหรือไม่
  3. หลังจากที่คุณปรับฟิวเตอร์ตามที่คุณต้องการแล้ว ทีนี้คุณก็สามารถจองเที่ยวบินที่คุณต้องการเองได้ เพียงแค่คลิกปุ่ม “จองเดี๋ยวนี้” จากนั้น JetRadar จะนำคุณไปสู่เว็บไซต์สายการบินหรือทราเวลเอเจนซีโดยตรงเพื่อให้คุณทำการจอง ตั๋ว เพียงแค่นี้ คุณก็จะได้ตั๋วตามที่คุณต้องการแล้วค่ะ การเดินทางของคุณกำลังจะเริ่มต้นขึ้นแล้ว
ผลการค้นหาตั๋วเครื่องบินราคาถูก

ข้อมูลฝรั่งเศสทั่วไป

ประเทศฝรั่งเศส หรือ สาธารณรัฐฝรั่งเศส (République Française) เป็นประเทศที่มีศูนย์กลางตั้งอยู่ในภูมิภาคยุโรปตะวันตก ทั้งยังประกอบไปด้วยเกาะและดินแดนอื่นๆ ที่อยู่ในทวีปต่างๆ ประเทศฝรั่งเศสแผ่นดินใหญ่ทอดตัว ตั้งแต่ทะเลเมดิเตอร์เรเนียนจนถึงช่องแคบอังกฤษและทะเลเหนือ และจากแม่น้ำไรน์จนถึงมหาสมุทรแอตแลนติก ชาวฝรั่งเศสมักเรียกแผ่นดินใหญ่ว่า หกเหลี่ยม (L'Hexagone) เนื่องจากรูปทรงทางกายภาพของประเทศคล้ายรูปหกเหลี่ยมนั้นเอง ประเทศฝรั่งเศสปกครองด้วยระบอบกึ่งประธานาธิบดี โดยยึดอุดมการณ์จากปฏิญญาว่าด้วยสิทธิของมนุษย์และของพลเมือง

สภาพภูมิอากาศ

ประเทศฝรั่งเศสภาคพื้นทวีปยุโรปตั้งอยู่ระหว่าง 41° and 50° เหนือ บนขอบทวีปยุโรปตะวันตกและตั้งอยู่ในภูมิอากาศเขตอบอุ่นเหนือ ทางภาคเหนือและตะวันตกเฉียงเหนือมีสภาพภูมิอากาศเขตอบอุ่น แต่กระนั้นภูมิประเทศและทะเลก็มีอิทธิพลต่อภูมิอากาศเหมือนกัน ละติจูด ลองจิจูดและความสูง เหนือระดับน้ำทะเลทำให้ประเทศฝรั่งเศสมีภูมิอากาศแบบคละอีกด้วย ทางภาคตะวันออกเฉียงใต้มีสภาพภูมิอากาศแบบเมดิเตอร์เรเนียน ภาคตะวันตกส่วนมากจะมีปริมาณน้ำฝนสูง ฤดูหนาวไม่มากและฤดูร้อนเย็นสบาย ภายในประเทศภูมิอากาศจะเปลี่ยนไปทางภาคพื้นทวีปยุโรป อากาศร้อน มีมรสุมในฤดูร้อน ฤดูหนาวหนาวกว่าเดิมและมีฝนตกน้อย ส่วนภูมิอากาศเทือกเขาแอลป์และแถบบริเวณเทือกเขาอื่นๆ ส่วนมากมักจะมีภูมิอากาศแถบเทือกเขา ด้วยอุณหภูมิต่ำกว่าจุดเยือกแข็งกว่า 150 วันต่อปีและปกคลุมด้วยหิมะกว่า 6 เดือน

เวลา

Daylight Savings time ตั้งแต่สิ้นเดือนมีนาคม จนถึงสิ้นเดือนตุลาคม เวลาในฝรั่งเศสจะเปลี่ยนจาก GMT+1 เป็น GMT+2 (ช้ากว่าประเทศไทย 6 ชั่วโมง และ 5 ชั่วโมง ตามลำดับ) โดยเริ่มตั้งแต่คืนวันอาทิตย์สุดท้ายของเดือนมีนาคม เวลา 02.00 น. ใช้เวลา GMT+2 และตั้งแต่คืนวันอาทิตย์ สุดท้ายของเดือนตุลาคม เวลา 03.00 น. ใช้เวลา GMT+1

เชื้อชาติ

ฝรั่งเศสเป็นเมืองใหญ่ ที่ผสมผสานหลายเชื้อชาติเข้าด้วยกัน มีประชากร 59.9 ล้านคนอาศัยอยู่ และประมาณ 4.2 ล้านคนในนั้นคือชาวต่างชาติ ผู้อพยพกว่า 4.2 ล้านคน แบ่งเป็น 45% แอฟริกัน , 40% ยูโรเปี้ยน และ 12% เอเชี่ยน

ศาสนา

คริสต์นิกายโรมันคาทอลิก ร้อยละ 85 อิสลาม ร้อยละ 10 คริสต์นิกายโปรเตสแตนต์ ร้อยละ 2 และยิว ร้อยละ 1

ภาษาราชการ

ภาษาฝรั่งเศส (Francais)

สกุลเงิน

เงินสกุลยูโร (€)

ระบบไฟฟ้า

ฝรั่งเศสใช้ระบบไฟฟ้าเหมือนประเทศไทยคือเป็นแบบ 220 โวลต์ บางที่ก็เป็นปลั๊กสองตา บางที่ก็เป็นปลั๊กชนิดสามขา เพราะฉะนั้น จำเป็นต้องเตรียมปลั๊กเสียบ หรือ Adapter มาจากเมืองไทย

โทรศัพท์

การโทรศัพท์จากประเทศไทยไปฝรั่งเศส หมุนหมายเลข 001-33- หมายเลขปลายทางในฝรั่งเศส 9 หลัก โทรศัพท์ภายในฝรั่งเศส ใช้หมายเลข 10 ตัว ทั้งประเภทโทรศัพท์ประจำที่และโทรศัพท์เคลื่อนที่โทรศัพท์ออกไปต่างประเทศจากฝรั่งเศส 00 + รหัสประเทศ + รหัสพื้นที่ + หมายเลขโทรศัพท์ หากต้องการต่อผ่าน Operator ให้ต่อไปที่ 00 + 33 + รหัสประเทศ

โทรศัพท์สาธารณะในฝรั่งเศสมีทั้งแบบใช้บัตรและแบบหยอดเหรียญ ถ้าเป็นในเมืองใหญ่ๆ มักจะเป็นแบบใช้บัตร บัตรโทรศัพท์มี 2 มูลค่า คือ 40 ฟรังค์ มี 50หน่วย และ 96 ฟรังค์ มี 120 หน่วย หากจะโทรศัพท์กลับมาเมืองไทยขอแนะนำให้ใช้บัตรโทรศัพท์จะสะดวกกว่าแบบหยอด เหรียญ หาซื้อบัตรโทรศัพท์ได้ที่ที่ทำการไปรษณีย์ แผงขายหนังสือที่มีอยู่ทั่วไป หรือตามสถานีรถไฟ และร้านขายของที่มีเขียนป้ายติดว่าจำหน่ายบัตรโทรศัพท์ หรือ "Telecarte" หากจะโทรศัพท์มาประเทศไทยด้วยโทรศัพท์สาธารณะจะต้องหมุน 19+66+รหัสเมือง+หมายเลขที่ต้องการ หากอยู่ที่เมืองอื่นๆในฝรั่งเศส นอกเหนือจากเมืองปารีสและต้องการจะโทรศัพท์มายังปารีส หมุนหมายเลข16+1+หมายเลขที่ต้องการ ถ้าอยู่ในปารีสและต้องการโทรศัพท์ไปยังเมืองอื่นๆ ให้หมุนหมายเลข 16+หมายเลขที่ต้องการ หมายเลขโทรศัพท์ที่ควรรู้ 13-โอเปอร์เรเตอร์ 1614-โอเปอร์เรเตอร์สำหรับระหว่างประเทศ

สถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ

  • Château de Versailles พระราชวังแวร์ซายส์ เป็นพระราชวังที่สวยงาม สร้างขึ้นโดย พระเจ้าหลุยส์ที่ 14 แห่งฝรั่งเศส มีนายช่างสถาปนิก อัลเดรด เลอ นอสเตอร์ เป็นผู้ออกแบบ เริ่มสร้างเมื่อปี พ.ศ. 2204 (ค.ศ. 1661) ใช้เวลาในการสร้างอยู่นานถึง 30 ปี จึงแล้วเสร็จ สิ้นเงินค่าสร้าง 500,000,000 ฟรังก์ ใช้คนงาน 30,000 คน ทุกส่วนทำด้วยหินอ่อนสีขาว เป็นแบบอย่างและศิลปกรรมก่อสร้างที่งดงามมาก ภายในพระราชวังแบ่งออกเป็นห้องต่างๆ เช่น ห้องบรรทม ห้องเสวย ห้องสำราญ ห้องทรงพระอักษร ห้องโถง ห้องออกว่าราชการ ฯลฯ แต่ละห้องมีเครื่องประดับมีค่ามากมาย ทั้งวัตถุ และ ภาพเขียนศิลปะที่มีชื่อเสียง ห้องที่มีชื่อเสียงและเป็นที่รู้จักมากที่สุด คือ ห้องกระจกที่เคยใช้ลงนาม เซ็นสัญญาสงบศึกระหว่างสัมพันธมิตร กับเยอรมัน ในคราวมสงครามโลกครั้งที่ 1 และเป็นที่ใช้ลงนามในครั้งเมื่อเยอรมันบุกตีชนะฝรั่งเศส ในสงครามโลกครั้งที่ 2 อีกด้วย ในการทำสงครามใหญ่ทุกครั้งฝรั่งเศส จะต้องประกาศให้ปารีสเป็นเมืองปลอดทหารคือ ไม่มีทหารตั้งอยู่ ไม่มีการต่อสู้ใด ๆทั้งสิ้น ทั้งนี้เพื่อเป็นการรักษาไม่ให้พระราชวังแห่งนี้ ต้องได้รับความเสียหายจากการโจมตี ของข้าศึก ปัจจุบันเป็นสถาปัตยกรรมมีค่าที่สุดของฝรั่งเศส และโลก ที่มีนักท่องเที่ยวไปชมความงามไม่น้อยกว่า 1,000,000 คน ต่อปี
  • Arc de triomphe de l'Étoile Arc de triomphe de l'Étoile ประตูชัยนี้เป็นส่วนหนึ่งของ "แนวเส้นตรงทางประวัติศาสตร์" (L'Axe historique) ซึ่งเป็นถนนเส้นตรงจากสวนพิพิธภัณฑ์ลูฟร์ไปยังชานเมืองปารีส ประตูชัยแห่งนี้ออกแบบโดยฌอง ชาลแกร็งในปี พ.ศ. 2349 โดยมียุวชนเปลือยชาวฝรั่งเศสกำลังต่อสู้กับทหารเยอรมัน เต็มไปด้วยเคราและใส่เกราะเป็นสัญลักษณ์เพื่อเป็นการปลุกใจ และเป็นอนุสรณ์สถานจนกระทั่งสงครามโลกครั้งที่ 1 ประตูชัยฝรั่งเศสมีความสูง 49.5 เมตร (165 ฟุต) กว้าง 45 เมตร (148 ฟุต) และลึก 22 เมตร (72 ฟุต) เป็นประตูชัยที่ใหญ่เป็นอันดับสองของโลกที่ปรากฏอยู่ในปัจจุบัน แบบของประตูชัยฝรั่งเศสนี้ได้แนวความคิดมาจากประตูชัยไททัส (สร้างในสมัย จักรวรรดิโรมัน ตั้งอยู่ที่เมืองโรม ประเทศ อิตาลี)
  • Avenue des Champs-Élysées แอวะนู เดส์ ชองป์ส เอลิเซ่ เป็นถนนในเขตที่ 8 ของกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส เป็นย่านการค้าที่ประกอบด้วยโรงละคร คาเฟ่ และร้านค้าหรูหรา สองข้างทางมีต้นเชสต์นัตที่ได้รับการตกแต่ง อย่างสวยงามปลูกเรียงราย ชื่อ "ชองป์ส เอลิเซ่ส์" มาจากคำว่า "ทุ่งเอลิเซียม" จากเทพปกรณัมกรีก ในภาษาฝรั่งเศส ชองป์ส เอลิเซ่ส์ ยังได้รับการขนานนามว่าเป็นถนนที่สวยที่สุดในโลกอีกด้วย ชองป์ส เอลิเซ่ส์ แต่เดิมเป็นท้องทุ่งและสวนเหมือนในชนบท จนกระทั่งปี ค.ศ. 1616 เมื่อพระนาง มารี เดอ เมดิชิ สมเด็จพระราชินีนาถแห่งฝรั่งเศส ได้ทรงขยายพื้นที่บริเวณสวนหย่อมของพระราชวังตุยเลอ รีส์ (Palais des Tuileries) เป็นถนนที่มีต้นไม้สองข้างทาง ในปี ค.ศ. 1724 ได้รับการขยายไปเชื่อมกับจัตุรัสแห่งดวงดาว (Place de l'Étoile, ปัจจุบันเปลี่ยนชื่อเป็น จัตุรัสชาร์ลส์ เดอ โกลล์ ที่เป็นที่ตั้งของประตูชัยฝรั่งเศส)
  • Cathédrale Notre Dame de Paris มหาวิหารโนตเรอดาม (Cathédrale Notre Dame de Paris, กาเตดราลโนตเรอดามเดอปารี) เป็นมหาวิหารในสมัยกอธิค ( Gothic ) ตั้งอยู่ทางฝั่งตะวันออกของกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส คำว่า Notre Dame ในชื่อของมหาวิหารนั้นแปลว่า "Our Lady" หรือ ก็คือ พระแม่มารีนั้นเอง ปัจจุบันมหาวิหารก็ยังใช้เป็นวัดของนิกายโรมันคาทอลิกและ เป็นที่นั่งของอาร์ชบิชอปแห่งปารีส มหาวิหารนอเทรอดามถือกันว่าเป็นวัดที่สวยงามที่สุดในสิ่งก่อสร้าง ยุคกอธิคแบบฝรั่งเศส วัดนี้ได้รับการบูรณปฏิสังขรณ์โดยเออแชน วียอเลต์-เลอ-ดุค ผู้เป็นสถาปนิกคนสำคัญที่สุดคนหนึ่งของฝรั่งเศส การก่อสร้างเป็นแบบกอธิคเป็นมหาวิหารแรกที่สร้างในลักษณะนี้ และการก่อสร้างก็ทำต่อเนื่องมาตลอดสมัยกอธิค ปฏิมากรรม และหน้าต่างประดับกระจกสี (stained glass) มีอิทธิพลจากศิลปะแบบแนทเชอราลลิสม์ (Naturalism) ทำให้แตกต่างจาก ศิลปะโรมาเนสก์ที่สร้างก่อนหน้านั้น นอเทรอดามเป็นหนึ่งในบรรดาสิ่งก่อสร้างแรกที่ใช้ "กำแพงค้ำยันแบบปีกนก" ตามแบบเดิมไม่ได้บ่งถึงกำแพงค้ำยันรอบมหาวิหาร "บริเวณร้องเพลงสวด" หรือ รอบทางเดินกลางของตัววัด เมื่อเริ่มสร้างกำแพงวัดสูงขึ้นกำแพงก็เริ่มร้าวเพราะน้ำหนักของสิ่งก่อ สร้าง เพราะสถาปนิกสมัยกอธิคจะเน้นการสร้างสิ่งก่อสร้างที่สูง บาง และโปร่ง เมื่อสร้างสูงขึ้นไปกำแพงก็ไม่สามารถรับน้ำหนักและความกดดันของกำแพงและ หลังคาได้ทำให้กำแพงโก่งออกไปและร้าว สถาปนิกจึงใช้วิธีแก้ด้วยการเติม "กำแพงค้ำยัน" ที่กางออกไปคล้ายปีกนกด้านนอกตัววัด เพื่อให้กำแพงค้ำยันนี้หนุนหรือค้ำกำแพงตัววัดเอาไว้ เมื่อทำไปแล้วนอกจากจะมีประโยชน์ทางการใช้สอยแล้วยังกลายเป็นเครื่องตกแต่ง ที่ทำให้สิ่งก่อสร้างมีความสวยงามขึ้น ฉะนั้นวิธีแก้ปัญหานี้จึงกลายเป็นเอกลักษณ์ส่วนหนึ่งของวัดที่สร้างแบบกอธิค ไปด้วยในตัว ราวปี ค.ศ. 1790 ระหว่างการปฏิวัติฝรั่งเศสวัดก็ได้รับความเสียหายอย่างหนัก ประติมากรรมและศิลปะทางศาสนาถูกทำลายไปมาก มหาวิหารได้รับการบูรณะปฏิสังขรณ์ครั้งใหญ่ระหว่างคริสต์ศตวรรษที่ 19 จนมีสภาพเหมือนก่อนหน้าที่ถูกทำลาย
  • Bateaux Mouches บาโต มูช คือการล่องเรือเพื่อเที่ยวชมเมืองปารีส ของฝรั่งเศส ซึ่งจะล่องน้ำไปตามแม่น้ำแซนเพื่อชมเมืองปารีสโดยรอบ คำว่า บาโต มูช ( Bateaux Mouches ) นั้นเป็นคำที่มาจากชื่อเครื่องหมายทางการค่า ของ คอมปานี เดส บาโต มูช ( Compagnie des Bateaux Mouches ) ซึ่งเป็นผู้ที่ในการบริการล่องเรือในกรุงปารีส คำว่า บาโต มูช ในภาษาฝรั่งเศสแปลว่า เรือแมลงวัน ซึ่งเป็นการใช้คำที่เข้าใจผิด อันที่จริงแล้ว เป็นการนำคำมาจากสถานที่ที่สร้างเรือ คือ บริเวร ย่านมูช ( Mouche ) ใน เมืองริยง ( Lyon ) เรือที่นำเที่ยวนี้เป็นที่นิยมมากใน ปารีส เรือมีที่นั้งเยอะและจะมีบริเวณที่เปิดและปิดหลังคาให้เลือกนั่งได้ ใช้เวลาในการชมเมืองประมาณ 1 ชั่วโมง ซึ่งหลายๆ บริษัทมีการให้บริการอาหารกลางวัน รวมไปถึงอาหารเย็นบนเรืออีกด้วย เนื่องจากแม่น้ำแซนตั้งอยู่ใจกลางเมืองใหญ่อย่าง ปารีส ทำให้การล่องเรือไปตามแม่น้ำนั้นได้พบกับสถานที่ที่สวยงามมากมายที่อยู่ในปารีส เช่น หอไอเฟล, มหาวิหารนอร์ทเทอดาม, สะพานอเล็กซานเดอร์ที่ 3 และ พิพิธภัณฑ์ลูฟ เป็นต้น ดังนั้น การมาล่องเรือ บาโต มูช เป็นอีกกิจกรรมหนึ่งสำหรับคนที่มาเที่ยวฝรั่งเศส จะต้องแวะเวียนมา
  • Obélisque de Louxor โอเบริกส์แห่งลักซอร์ ( The Luxor Obelish ) เป็นโอเบลิกส์ศิลปะอียิปต์โบราณตั้งอยู่ตรงกลางของจตุรัส คองคอร์ด ( Place de la Concorde) ซึ่งแต่เดิมแล้ว มันตั้งอยู่ที่ทางเข้าของวัดลักซอร์ ( Luxor Temple ) ในประเทศ อียิปต์ สร้างจากหินแกรนิตสีแดงทั้งก้อน มีความสูงถึง 23 เมตร หนัก 250 ตัน ตัวโอเบริกส์ตกแต่งด้วยรูป ฮีโรกลีฟิก เพื่อเป็นการสรรเสริญประเกียจติ์ ฟาโร รามเสสที่ 2 ในสมัย อียิปต์โบราณ
  • Musée du Louvre พิพิธภัณฑ์ลูฟร์ หรือในชื่อทางการว่า the Grand Louvre เป็นพิพิธภัณฑ์ทางศิลปะ ที่ตั้งอยู่ในกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ที่มีชื่อเสียงที่สุด เก่าแก่ที่สุด และใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก โดยได้เปิดให้สาธารณะชนเข้าชมได้เมื่อปี พ.ศ. 2336 (ค.ศ. 1793) มีประวัติความเป็นมายาวนานตั้งแต่สมัยราชวงศ์คาเปเทียง ตัวอาคารเดิมทีเคยเป็นพระราชวังหลวง ซึ่งปัจจุบันเป็นสถานที่ที่จัดแสดงและเก็บรักษาผลงานทางศิลปะที่ทรงคุณค่า ระดับโลกเป็นจำนวนมาก เช่น ภาพเขียนโมนาลิซา, The Virgin and Child with St. Anne, Madonna of the Rocks ผลงานของเลโอนาร์โด ดาวินชี หรือภาพ Venus de Milo ของอเล็กซานดรอสแห่ง Antioch พิพิธภัณฑ์ลูฟ นั้นต้อนรับนักเที่ยวที่มาเที่ยวฝรั่งเศส โดยเฉพาะปารีส กว่า 8,000,000 คนต่อปี โดยพิพิธภัณฑ์ลูฟร์ออกแบบโดย ไอ. เอ็ม. เป สถาปนิกชาวจีน-อเมริกัน
  • La Tour Eiffel หอไอเฟล (ฝรั่งเศส: Tour Eiffel, ตูร์แอฟแฟล; อังกฤษ: Eiffel Tower) หอคอยโครงสร้างเหล็กตั้งอยู่บนถนนชองป์ เดอ มารส์ บริเวณแม่น้ำแซน ในกรุงปารีส หอไอเฟลเป็นสัญลักษณ์ของประเทศฝรั่งเศสที่เป็นที่รู้จักกันทั่วโลก ทั้งยังเป็นหนึ่งในสิ่งก่อสร้างที่มีชื่อเสียงที่สุดในโลกอีกด้วย โดยตั้งชื่อตามสถาปนิกผู้ออกแบบ "กุสตาฟ ไอเฟล" ในแต่ละปี มีนักท่องเที่ยวมาชมกว่า 6,000,000 คน และกว่า 200,000,000 คนตั้งแต่เริ่มก่อสร้าง ส่งผลให้หอไอเฟลเป็นสิ่งก่อสร้างที่มีคนเข้าชมมากที่สุดต่อปีอีกด้วย หอไอเฟลมีความสูง 324 เมตร (1,063 ฟุต) (รวมเสาอากาศสูง 24 เมตร (79 ฟุต)) ซึ่งก็สูงเท่ากับตึก 81 ชั้น เมื่อหอไอเฟลสร้างเสร็จในปี พ.ศ. 2432 (ค.ศ. 1889) หอไอเฟลกลายเป็นสิ่งก่อสร้างที่สูงที่สุดในโลกแทนที่อนุสาวรีย์ วอชิงตัน และได้ครองตำแหน่งนี้มาเรื่อยๆ จนกระทั่งปี พ.ศ. 2473 (ค.ศ. 1930) ก็ได้เสียตำแหน่งให้แก่ตึกไครส์เลอร์ (319 เมตร หรือ 1,047 ฟุต) น้ำหนักเหล็กที่ใช้ก่อสร้างนั้นทั้งหมด 7,300 ตัน และถ้ารวมทั้งหมดก็เป็น 10,000 ตัน ส่วนจำนวนบันไดนั้นเปลี่ยนแปลงตลอด เมื่อแรกเริ่มนั้นมี 1710 ขั้น ในทศวรรษที่ 1980 มี 1920 ขั้น และในปัจจุบัน มี 1665 ขั้น
  • Château de Chenonceau ปราสาทเชอนองโซ เป็นปราสาทที่สง่างามที่สุดในเขตหุบเขาลุ่มแม่น้ำลัวร์ ตั้งอยู่บนฝั่งขวาของแม่น้ำแชร์ ที่สร้างสมัยศตวรรษที่ 16 เน้นในเรื่องสถาปัตยกรรมที่สวยงาม มี ฐานโค้งที่สวยงามรองรับตัวปราสาท ตัวเสาฝังอยู่ที่ก้นแม่น้ำ ปราสาทจึงดูคล้ายลอยอยู่เหนือน้ำ ปราสาทมีสวนสวยและป่าละเมาะที่แวดล้อมอยู่โดยรอบ ช่วยส่งให้ปราสาทแห่งนี้โดดเด่นยิ่งขึ้น ภายในมีเครื่องเรือนเก่าแก่และภาพวาดมากมาย
  • Le Mont Saint Michel มงแซงต์-มิเชล คือวิหารที่ตั้งอยู่บนเกาะโดดเดี่ยว กลางทะเลชายฝั่งตะวันตก บริเวณบาส-นอร์มองดีของประเทศ ฝรั่งเศส ได้รับประกาศจากองค์การยูเนสโกให้เป็น มรดกโลกเมื่อปี พ.ศ. 2522 ภายใต้ชื่อ มงแซง-มีแชลและอ่าว และยังเป็นศาสนสถานที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในยุโรป เทียบได้กับมหาวิหารเซนต์ปีเตอร์ ( Saint Peter Cathedal )แห่งกรุงโรม สร้างมาหลายยุคหลายสมัยเปลี่ยนแปลงรูปแบบตลอดการสร้าง จน ค.ศ. 966 นักบวชนิกายเบเนดิกตีนจากวิหารแซ็ง-ว็องดรีย์ ได้สร้างโบสถ์และอาคารขึ้นใหม่เป็นอารามขนาดใหญ่ และมีการตั้งชื่อใหม่ว่ามงแซ็งต์-มิเชล ในปีหนึ่งจะมีนักท่องเที่ยวไปเยี่ยมเยือนมงแซง-มีแชลกว่า 3 ล้าน 2 แสนคน ซึ่งทำให้ที่นี่เป็นสถานที่ท่องเที่ยงยอดนิยมอันดับที่ 3 ของประเทศฝรั่งเศสรองลงมาจากหอไอเฟลและพระราชวังแวร์ซาย ตัวเกาะอันเป็นที่ตั้งของวิหารนั้นเป็นหินแกรนิต โดยมีเส้นรอบวงเกาะประมาณ 960 เมตร และสูง 92 เมตร แล้วถ้าบวกกับความสูงของตัววิหารนั้นแล้วก็จะมีความสูงถึง 155 แมตร บนยอดวิหารเป็นรูปปั้นทองของเทวดามิเชล (ไมเคิล) สร้างโดย เอมานูแอล เฟรมีเย (Emmanuel Frémiet)
  • Nice นีซ เมืองที่ใหญ่เป็นอันดับ 5 ของฝรั่งเศส นีซเต็มไปด้วยสถาปัตยกรรมและวัฒนธรรมชั้นเยี่ยม ซากปรักหักพัง พิพิธภัณฑ์ ร้านเสื้อผ้า ตลาดกลางแจ้ง ภัตตาคาร และชีวิตในยามค่ำคืน ทำให้นีซเป็นสถานที่ยอดเยี่ยมที่น่าไปเยี่ยมชม นีซเป็นเมืองที่มีบรรยากาศผ่อนคลาย ประวัติศาสตร์อันยาวนานของภูมิภาคนี้ส่งผลให้เมืองนี้มีวัฒนธรรมที่โดดเด่น นอกเหนือจากวัฒนธรรมฝรั่งเศสยังสัมผัสได้ถึงอิทธิพลที่ได้รับจากชาวอิตาเลี่ยนและจากดินแดนอาณานิคมอย่างเกาะคอร์ซิกา ที่นีซมีงานเทศงานคาร์นิวัลใน เดือนกุมภาพันธ์ เทศกาลเพลงแจ๊สในเดือนกรกฎาคม และงานแสดงศิลปะตลอดทั้งปี รวมถึงงานอื่นๆที่สร้างสีสันให้เมืองนี้อยู่เสมอ
  • Deauville โดวิลส์ เมืองตากอากาศริมทะเลอีกเมืองหนึ่ง ที่ดาราและนางแบบนิยมมาถ่ายรูปลงปกนิตยสารกันอยู่เป็นประจำ มีการสร้างสะพานไม้ เพื่อการนี้โดยเฉพาะ สามารถเดินเที่ยวชมเมืองเล็กๆ ที่หรูหรา และแวดล้อมไปด้วยกลิ่นอายของเหล่าชนชั้นสูงในอดีต ตัวเมืองเรียงรายไปด้วยด้วยอาคารร้านค้าสวยงาม ขายสินค้ายี่ห้อดังๆ อาทิ กุชชี่, คาร์เทียร์, คริสเตียนดิออร์, หลุยส์ วิตตอง, ปราดาและห้างแพรงตองส์ ในบรรยากาศสบายๆ
  • Grasse เมือง กราซ ในแคว้น Provence ได้ชื่อว่าเป็นเมืองแห่งการผลิตน้ำหอมของฝรั่งเศส กลิ่นหอมจากดอกไม้และพืชนานาชนิดถูกนักผสมน้ำหอมหรือ Le Nez ทำการผลิตจากการผสมกลิ่นหอมต่างๆ และมีการตั้งชื่อด้วยคำจากภาษาวรรณกรรมหรือบุคคลเป็นส่วนใหญ่ จนเริ่มมีร้านขายน้ำหอมเปิดจำหน่ายเป็นร้านเฉพาะจากเดิมที่จำหน่ายร่วมกับ เวชภัณฑ์ โดยมีการตกแต่งร้านขายน้ำหอมอย่างงดงามด้วยกระจกเงาและสีสันที่อ่อนโยน จนทุกคนเป็นต้องเหลียวมองเมื่อเดินผ่าน