บุคลิกภาพที่ดี

บุคลิกภาพที่ดีตามแนวคิดของนักจิตวิทยา

บุคลิกภาพที่ดี (Healthy Personality) หมายถึง แนวทางที่บุคคลประพฤติ ซึ่งต้องอาศัยสติปัญญา ความเชื่อถือและศรัทธาต่อชีวิต ซึ่งจะทำให้ความต้องการ ต่างๆ ของบุคคลได้รับการตอบสนอง ทำให้เขาสามารถพัฒนาตนเอง ให้มีสติรู้ตัวอยู่เสมอ มีความรักตนเอง รักธรรมชาติและรักผู้อื่น มีนักจิตวิทยา หลายท่าน ได้พยายามคิดค้นทฤษฎีบุคลิกภาพเพื่อหาข้อสรุป เรื่อง บุคลิกภาพลักษณะใดที่ดี เป็นที่ชื่นชอบของคนทั่วไป หรือเป็นที่พึ่งประสงค์ในหน่วยงาน เพื่อจะได้คัดเลือก คนให้เหมาะกับงาน หรือเลือกลักษณะภายนอกที่เราเรียกว่า บุคลิกภาพที่ดีที่สุดสำหรับทำงาน ให้กับเจ้าของกิจการ เราหลายท่านเชื่อว่าถ้าคนเรามีภาพลักษณ์ภายนอกดูดี ก็ดูเหมือนว่าคนเหล่านี้ค่อนข้างจะได้เปรียบ ได้โอกาสในเรื่องต่างๆมากกว่า คนที่ไม่มีการปรับปรุงบุคลิกภาพ ดังนั้นบุคลิกภาพ จึงเป็นสิ่งแรก ที่ทำให้คนอื่นได้รู้จักตัวเรา ได้เห็นตัวเราพอคร่าวๆ แต่ในความเป็นจริงในเรื่องบุคลิกภาพ ไม่ใช่ส่วนที่ปรากฏภายนอกเพียงอย่างเดียว ส่วนที่อยู่ข้างในที่ไม่สามารถสังเกตเห็น ทางจิตวิทยาก็ถือว่าเป็นส่วนหนึ่ง ของบุคลิกภาพเช่นเดียวกัน ในที่นี้ คำว่าบุคลิกภาพ (Personality) หมายถึง ภาพโดยรวมของบุคคลทั้งหมดที่ประกอบด้วย ลักษณะทั้งภายในและภายนอก อันเป็นลักษณะเฉพาะที่ไม่เหมือนใครหรืออาจเรียกอีกอย่างว่าเอกลักษณ์ใครเอกลักษณ์มัน มีความไม่เหมือนกันและมีแรงจูงใจภายในจิตใจของแต่ละบุคคล ที่ทำหน้าที่ควบคุมตนเองให้มี การแสดงออกที่ดีตามกฎของสังคม ถ้าเราพิจารณาจากรากศัพท์ นักจิตวิทยาอธิบายว่า บุคลิกภาพ มาจากคำว่า “Persona”หมายถึง หน้ากาก เราทุกคนใส่หน้ากาก เป็นหน้ากากทางสังคม หน้ากากที่ถูกขัดเกลาจนถูกยอมรับในสังคมแล้วเราก็ลงเล่นละครชีวิตตามที่หน้ากากกำหนด แต่เรามักจะหลีกเลี่ยงคำหรือนิยามศัพท์ที่ค่อนข้างตรงจนเกินไป เราจึงเรียกให้ชื่อใหม่เพราะว่า บุคลิกภาพ หลายท่านคงเข้าใจความหมายของบุคลิกภาพบ้างแล้ว ต่อไปนี้จะศึกษาแนวคิดของนักจิตวิทยาหลายท่าน ที่อธิบายว่าบุคลิกภาพที่ได้รับการพัฒนาควรมีลักษณะเช่นใด ซึ่งอาจจะตรงกับตัวท่านหรือไม่ตรงกับตัวท่านก็ได้ แต่ทั้งนี้ก็ไม่ได้หมายความว่าแนวคิดที่จะเสนอต่อไปนี้ดีที่สุด อย่างไร ก็ดีอาจมีประโยชน์บ้าง ขึ้นอยู่กับการเลือกนำไปใช้

บุคลิกภาพที่ดีตามแนวคิดของ Roger

บุคลิกภาพที่ดี คือ การที่บุคคลที่มีสุขภาพจิตดี (health person) ตามแนวคิดของโรเจอร์ เชื่อว่ามนุษย์มีธรรมชาติที่ดี มนุษย์มีแรงจูงใจไปทางด้านบวก มนุษย์เป็นผู้มีเหตุผล(rational) เป็นผู้ได้รับการขัดเกลา(socialized) และเป็นผู้สามารถตัดสินเลือกทางชีวิตของตนได้ ถ้ามีอิสระเพียงพอและในสภาพการณ์ที่เอื้ออำนวยมนุษย์จะพัฒนาไปได้เต็มศักยภาพ (full potential) ฉะนั้นมนุษย์จึงเป็นผู้นำตนเอง (self-directing) และภายใต้สถานการณ์ที่มีเงื่อนไขเหมาะสม มนุษย์จะพัฒนาตนเองไปในทิศทางที่เหมาะสมกับความสามารถของบุคคลไปสู่การรู้จักตนเองอย่างแท้จริง (self-actualization) (อาภา จันทรสกุล. 2529 :71)

บุคคลที่มีสุขภาพจิตดีตามแนวคิดของโรเจอร์ ต้องมีคุณลักษณะ ดังนี้

บุคคลที่ยอมรับตนเอง ( self-accepting person )
เป็นผู้ที่ปรับตัวได้เหมาะสมกับสภาพความเป็นจริง
เป็นผู้ที่เปิดตนเองสู่ประสบการณ์ใหม่ๆ สามารถรับรู้ความต้องการที่เกิดขึ้นทั้งจากภายนอก (external) และภายใน ( internal ) ได้ถูกต้อง
เป็นผู้ที่เข้าใจตนเอง สามารถเลือกและตัดสินใจตอบสนองความต้องการของตนเองได้
เป็นผู้ที่สามารถพิจารณารับรู้เกี่ยวกับอัตตา (self) เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ สามารถโน้มเอาประสบการณ์ต่างๆ มาพัฒนาตนเอง เกิดการเรียนรู้ใหม่ๆ ที่สร้างสรรค์ทั้งต่อตนเองและต่อสังคม
เป็นผู้มีชีวิตอยู่กับปัจจุบันมากกว่าอดีต หรือฝันถึงอนาคต
เป็นผู้ที่มีความเป็นตัวของตัวเองอย่างเต็มที่ (fully functioning self ) คือ

1 เปิดตนเองสำหรับประสบการณ์ต่างๆ ในชีวิต

2 อยู่กับสภาวะความเป็นปัจจุบัน

3 เชื่อในความสามารถของตนเองในการตัดสินใจสิ่งต่างๆ สามารถรับผิดชอบการกระทำของตนเอง ไม่ตัดสินใจสิ่งต่างๆ โดยขึ้นอยู่กับการยอมรับหรือไม่ยอมรับของผู้อื่น

สรุปได้ว่า โรเจอร์ เชื่อว่า มนุษย์มีธรรมชาติที่ดีมนุษย์มีแรงจูงใจไปทางด้านบวก มนุษย์เป็นผู้มีเหตุผลเป็นผู้ได้รับการอบรมเลี้ยงดูและขัดเกลาจนเป็นผู้สามารถตัดสินเลือกทางชีวิตของตนได้ ถ้ามีอิสระเพียงพอ และในสภาพการณ์ที่เอื้ออำนวยมนุษย์จะพัฒนาไปได้เต็มศักยภาพ (full potential) การเข้าถึงเพื่อการพัฒนาตนสูงสุดอาจใช้คำว่า fully functioning person , self-actualization , self-awareness ซึ่งทั้งสามคำมีความหมายเหมือนกัน

บุคลิกภาพที่ดี ตามแนวคิดของ Frederick Solomon Perls

Perls เป็นผู้ให้กำเนิดการบำบัดแบบเกสตอล โดยเน้นที่การรับรู้ตนเอง (self-awareness) โดยไม่เน้นการใช้สติปัญญา แต่ Perls เน้นการใช้ประสาทสัมผัส ของตนเอง ปล่อยวางอดีต ให้ความสำคัญกับปัจจุบัน เขาเน้นประสบการณ์ตรงเพื่อประโยชน์ในการรับรู้และการให้ความหมาย เน้นการปล่อยวาง ประสบการณ์เดิม เพื่อเปิดตนเองต่อประสบการณ์ปัจจุบัน เขาอธิบายว่าคนที่สุขภาพจิตดีมีลักษณะบุคลิกภาพดังนี้ คือ (อาภา จันทรสกุล. 2529 :77)

เป็นผู้ที่รับรู้ความรู้สึก ความต้องการและความคิดต่างๆ ของตัวเอง สัมผัสถึงสิ่งเร้าภายในตนเอง ตลอดจนรับรู้ถึง สภาพแวดล้อมและความสัมพันธ์ของตัวเอง กับสภาพแวดล้อมได้ถูกต้อง เป็นผู้ที่ใช้ความคิด ความรู้สึกและประสาทสัมผัสอยู่ในสภาวะปัจจุบัน ไม่ปล่อยให้ตนเองติดตรึงอยู่กับอดีต หรือคอยคำนึงหวาดวิตกถึง อนาคตที่ยังไม่เกิด
เป็นบุคคลที่พึ่งสภาพแวดล้อมมาเป็นพึ่งตนเองเป็นบุคคลที่ไม่มีความรู้สึกคั่งค้างหรือมีอดีตที่คอยรบกวนให้ไม่สบายใจ สามารถขจัดความรู้สึกและเรื่องที่คั่งค้าง (unfinished business ) ภายในจิตใจให้หมดไปได้ ใช้พลังความสามารถที่มีอยู่ อยู่กับความเป็นปัจจุบัน
เป็นผู้ที่รู้จักตนเองและสภาพความเป็นจริงโดยการใช้สัมผัสรับรู้
เป็นบุคคลที่ไม่ปฏิเสธความต้องการต่างๆ ของตนเอง
เป็นคนที่สามารถยอมรับตนเองตามความเป็นจริง เชื่อในความสามารถของตนเอง ปรับตัวดี และรับผิดชอบต่อการกระทำของตนเอง สามารถจัดระบบตนเองให้เกิดความสมดุลได้
เป็นบุคคลที่รับผิดชอบต่อการตัดสินใจของตนเอง สามารถเผชิญกับประสบการณ์ใหม่ๆ ได้

บุคลิกภาพที่ดี ตามแนวคิดของ Eric Berne

Eric Berne เป็นผู้ให้กำเนิดทฤษฎีการสื่อสารสัมพันธ์ระหว่างบุคคล (Transactional Analysis ) เขาเชื่อว่า บุคคลสามารถที่จะเข้าใจถึง บุคลิกภาพที่เป็นผลมาจากประสบการณ์ในอดีตได้และบุคคลสามารถตัดสินใจเลือกแนวทางในการดำเนินชีวิตใหม่ได้ ถ้าเขากล้าที่จะเปลี่ยนแปลงตนเอง โดยการเปลี่ยนแปลงบทบาทและตำแหน่งชีวิตเสียใหม่ สามารถวางเป้าหมายที่จะนำไปสู่พฤติกรรมใหม่ๆ ในอนาคต แต่ทั้งนี้ไม่ได้หมายความว่า บุคคลมีอิสระจากอิทธิพลของสังคมหรือบุคคลสามารถตัดสินใจได้อย่างอิสระโดยขึ้นอยู่กับความต้องการของตัวเองเท่านั้น ในสภาพความเป็นจริงบุคคลเกิดมาอย่างอิสระมีเสรีภาพ แต่บุคคลได้รับอิทธิพลของความคาดหวังความต้องการที่บุคคลอื่นรอบตัวเขามีต่อเขาตั้งแต่ยังเป็นเด็กที่คอยบอกให้ทำอย่างนั้นอย่างนี้ อยู่เสมอ คนที่จะมีบุคลิกภาพดี ต้องมีสุขภาพจิตดี ตามแนวคิดของ Eric Berne ต้องมีลักษณะดังนี้ คือ

ใช้ชีวิตอยู่กับสภาวะปัจจุบัน
รู้จักคุณค่าของเวลา และใช้เวลาเหมาะสม
ไม่ตกเป็นทาสของอดีตและอนาคต
รับผิดชอบต่อการกระทำของตนเอง
มีความกล้าเป็นตัวของตัวเอง กล้าคิด กล้าทำทุกอย่างเต็มศักยภาพไม่กลัวที่จะเรียนรู้ไม่กลัวที่จะมีการการเปลี่ยนแปลง
รู้จักใช้ชีวิตอย่างมีคุณค่า
มีการสื่อสารกับคนอื่นอย่างจริงใจ ไม่เสแสร้ง โดยตระหนักถึงความรู้สึกของตนเองและแสดงความรู้สึกนั้นอย่างเหมาะสม
รู้จักที่จะให้และรับอย่างสมดุล
เลือกสะสมแสตมป์สีทอง คือ มีความสามารถยอมรับตนเองและยอมรับผู้อื่นได้เช่นกัน หรือรักผู้อื่นเสมอตนนั่นเอง
มีความรู้สึกต่อตนเองและผู้อื่นแบบ “I ‘m OK-You’re OK.” ฉันดีและเธอก็ดี

สรุปบุคลิกภาพดี ต้องมีสุขภาพจิตดี ตามแนวคิดของ Eric Berne ต้องอยู่กับปัจจุบัน ที่นี้ขณะนี้ อยู่อย่างรู่ตัว เท่าทันความคิด

บุคลิกภาพที่ดี จากแนวคิดต่างๆที่อ่านหนังสือ และการศึกษาเอกสารต่างๆ

ผู้เขียนขอเสนอแนะบุคลิกภาพที่ดีควรมีลักษณะ 15 ประการ ดังต่อไปนี้

คุณต้องเป็นคนมองโลกในแง่ดี ดีในที่นี้ คือ ดีทั้งจิตใจและดีทั้งการประพฤติปฏิบัติ สามารถรับรู้ความเป็นไป และความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น ตามความจริงของสังคมและโลก และตัวเราสามารถดำรงชีวิตอยู่ในโลกใบนี้ได้อย่างมีความสุข ตามควรแก่ฐานะความเป็นอยู่ของตัวเรา
คุณต้องเป็นคนที่สามารถยอมรับคนอื่นได้ แต่จริงๆแล้วมนุษย์ปกติต้องรักตนเอง ยอมรับตนเองก่อน จากนั้นเราก็พร้อมที่จะรักคนอื่นและยอมรับคนอื่น เช่นเดียวกับที่เรายอมรับตัวเราเอง และรักตัวเราเองเช่นเดียวกัน
คุณต้องเป็นคนที่มีความจริงใจ ไม่เสแสร้ง แกล้งทำ ไม่มีมารยา เจ้าเล่ห์แสนกล พูดจาหาความจริงไม่ได้ การมีความจริงใจจะทำให้คุณแสดงความเป็นคุณออกมา โดยไม่ต้องแต่งแต้มสีสันมากจนเกินงาม คุณจะแสดงออกแบบเรียบง่าย มีความเป็นธรรมชาติของตนเองอย่างเหมาะสม
คุณต้องไม่ทำตัวเป็นจุดศูนย์กลาง การทำตนเป็นจุดศูนย์กลางของทุกสิ่ง ทุกอย่างนั้น รังแต่จะเกิดปัญหาและปัญหาต่างๆมันมีจุดศูนย์กลางของมัน คุณอย่าเอาตัวไปอยู่ท่ามกลางพายุ ที่ทำให้คุณอ่อนไหว จงดึงตัวคุณออกมา แต่ไม่ใช่ทำตัวให้ลอยอยู่เหนือปัญหา กรณีนี้เป็นอีกประเด็นหนึ่งคนละเรื่องกัน
คุณควรเป็นคนไม่ยึดติดไม่ยึดติดอยู่กับสิ่งต่างๆ จนมากเกินไปจนขาดความเป็นตัวเอง เช่น แบบแผนที่โบราณที่ขาดการสร้างสรรค์ หรือสิ่งที่ทำให้ยุ่งยากต่างๆ ควรมองข้ามบ้างในบางช่วงบางเวลา สิ่งที่ปฏิบัติกันมาจนเรียกว่าประเพณี และวัฒนธรรม อะไรที่ทำให้การดำเนินชีวิต ยุ่งยาก ลำบาก เราอาจจะต้องตัดขั้นตอนบางอย่างลงบ้าง เพื่อให้เกิดความคล่องตัวหรือการทำตัวให้เป็นอิสระจากเครื่องเกาะกุมทั้งปวง บางช่วงบางเวลาสิ่งนี้ก็ดีเหมือนกัน ใช้ความสุขที่ปรากฏจากธรรมชาติทำให้สภาพจิตใจสดชื่น เช่น การนั่งเพลินๆ แล้วมองท้องฟ้า ปรากฏว่ามีสายรุ้งทอแสงและสีสดงดงาม ความรู้สึกเช่นนี้เป็นการเข้าสู่ธรรมชาติ การเข้าสู่ความซาบซึ้งของธรรมชาติที่ เข้าไปสัมผัสกับจิตใจ เมื่อใครได้รับก็ยากที่จะลืมเหมือนกัน ต่างคนต่างรู้สึก แล้วแต่ใจใครจะรู้สึกอย่างไร แต่ที่แน่ๆใครที่สัมผัสธรรมชาติและรู้ซึ้งถึงธรรมชาติได้นานและรู้สึกดี นั่นก็เป็นความรู้สึกสุดยอดในชีวิตแล้วที่มนุษย์ปกติจะสัมผัสได้
คุณควรเป็นคนร่าเริงแจ่มใส สดชื่น ทำตัวมีชีวิตชีวา ใครพบเห็นก็อยากคุย อยากเข้าใกล้ คนอายุมากก็สามารถทำได้ ไม่ใช่ทำได้เฉพาะสาวๆหรือหนุ่มๆแต่สดชื่นแบบสมวัยนะ
คุณควรจะมีประสบการณ์ที่เกี่ยวข้องกับความสุขที่เกิดภายในจิตใจ คุณจึงจะรู้ว่าความสุขนั้นเป็นประสบการณ์ที่คุณประทับใจ จำไม่รู้เลือน เป็นภาพติดตาตรึงใจ นักวิชาการ บางท่านใช้คำว่า ประสบการณ์สูงสุดในชีวิต เช่น การได้เห็นฝนดาวตกที่มีขนาดใหญ่ และมีความยาวตลอดจนแสงสว่างลากเป็นเส้นตรงลงสู่พื้นโลก ประสบการณ์สูงสุดในชีวิต ต่างคนต่างได้รับ ต่างคนต่างมีประสบการณ์ แต่เมื่อมีแล้วความรู้สึกเช่นนี้จะช่วยยกระดับจิตใจของตัวเราให้สูงขึ้น และเข้าใจชีวิตและธรรมชาติมากขึ้น
คุณควรมีจิตใจเมตตา กรุณาต่อเพื่อนร่วมโลกชีวิตมนุษย์ทุกคนในโลกมีสภาพเช่นเดียวกับตัวเรา คือ เกิดขึ้น ตั้งอยู่ และดับไปเมื่อวิถีวิชิตเราดีกว่าคนอื่น เราอาจรู้จักการแบ่งปัน การช่วยเหลือผู้อื่นในฐานะเพื่อนร่วมเกิดแก่ เจ็บ ตายด้วยกันทั้งสิ้น ใครที่มีบุคลิกภาพที่รุกราน ตัวเรา หรือต่อต้านตัวเรา หรือชอบด่าว่าเรา จนทำให้เรารู้สึกเสียใจบ่อยๆ ถ้าท่านผ่านได้ จงผ่านไป ให้อภัยที่เพื่อนคิดผิด ใครมาเล่าก็ฟังครั้งเดียวแล้วผ่านหูไป เกียรติและชื่อเสียงของเราไม่ได้อยู่ที่ ปากของใครแต่ความดีความชั่วอยู่ที่ตัวเราเอง คนอื่นไม่รู้ เรารู้ ชีวิตก็สดชื่นแล้ว สร้างความเมตตา กรุณาในหัวจิตหัวใจ นานวันเข้าจิตใจเราก็จะพัฒนา ส่งผลให้พฤติกรรมที่ไม่ดีของเราได้รับการ ขัดเกลาขึ้น
คุณควรมีสัมพันธภาพที่ดีกับคนทุกคน ไม่เลือกชั้น วรรณะคนทุกคนเป็นเพื่อนเรา เพื่อนมีทั้งดี ดีน้อยหน่อย ดีน้อยมาก แต่ในความเป็นคนเชื่อว่าตัวเพื่อนเราที่แตกต่างกันมีดีอยู่ ในตัวด้วยกันโดยทั้งสิ้น เวลาคิด เวลานึกดูเหมือนทุกอย่างจะง่ายแต่เวลาปฏิบัติ อาจทำได้ไม่ง่ายนัก แต่เราก็ต้องพยายามเพื่อรักษาคำว่า สัมพันธภาพไว้ให้ยาวนานที่สุด ให้ความมั่นใจและมีความปรารถนาดีต่อกัน เราท่านหลายคนคงไม่มีความสุขหรอกถ้าเพื่อนที่เคยคบกันมาต้องผิดใจกัน ไม่เข้าใจกัน กว่าจะคบกันมาใช้เวลายาวนาน คำพูดนิดเดียวทำร้ายจิตใจเพื่อนเรา ไม่มองหน้ากัน โกรธกัน พูดให้เสื่อมเสีย กว่าจะรู้ว่าเรารักเขา เขาเป็นเพื่อนเรา ก็ตอนจุดธูปบอกลาก่อนเข้าเมน แล้วจะได้ประโยชน์อะไร เพราะฉะนั้นในช่วงที่ยังมีชีวิต มีโอกาส จงรู้จักสร้างสัมพันธภาพที่ลึกซึ้งกับคนอื่นๆไม่ใช่เฉพาะเพื่อนสนิท คนรัก แต่ในที่หมายถึงทุกคนที่เรารู้จัก แล้วท่านก็จะเป็นที่รักของคนอื่น ถ้าเราปฏิบัติเช่นนี้แล้วเราไม่อยู่ในหัวใจเพื่อนเรา ไม่ต้องเสียใจ จงสร้างสิ่งที่ดีๆต่อไป เพราะสิ่งนี้จะพัฒนาคุณภาพจิตใจเราเอง
คุณสามารถที่จะเป็นคนนำคนอื่นได้และในบางสถานการณ์คุณควรจะตามคนอื่นได้เช่นกัน พฤติกรรมเช่นนี้ ไม่เสียหายมีแต่ก่อประโยชน์
คุณควรจะเป็นคนที่สามารถแยกชั่วดีได้ โดยไม่ต้องให้ใครมาชี้นำ
คุณควรมีอารมณ์ขันบางครั้งบางช่วงอย่างลืมความสนุก ความสุขที่เกิดจากเรื่องขำๆ มันจะช่วยผ่อนคลาย หลายๆเรื่องได้ดีที่เดียว อารมณ์ เป็นยาแก้โรคปวดหัวได้ดี
คุณควรมีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์สิ่งดี ให้กับตนเอง สังคมที่คุณอยู่ ความคิดริเริ่มนี้จะสรรสร้างสิ่งดี เกินกว่าที่คุณคิดก็ได้
คุณไม่ควรตามกระแส จนขาดความเป็นตัวตน ไม่น่าอายถ้าเราจะไม่ทันสมัยใน บางเรื่อง การตามกระแสมากจนขาดความยับยั้งชั่งใจ อาจเกิดผลเสียต่อความเป็นคุณก็ได้
คุณควรหัดตามให้ทันกับเทคโนโลยี ปัจจุบันเป็นโลกของไอที การติดต่อสื่อสารถึงกันหมด บุคคลก็ควรจะเรียนรู้และทำความเข้าใจเทคโนโลยีต่างๆ เพื่อคุยกับคนอื่นรู้เรื่องไม่ตกยุค

สำหรับเรื่องบุคลิกภาพที่ได้รับการพัฒนาแล้วทั้งสิบห้าข้อเป็นแนวทางหนึ่งในการพัฒนาบุคลิกภาพ และเมื่อนักศึกษาอ่านแล้วนักศึกษาคิดว่าบุคลิกภาพของตนเองตรงกับข้อใดบ้าง ทั้งนี้ไม่จำเป็นว่าจะต้องมีบุคลิกภาพดังกล่าวในทุกข้อ นักศึกษาเลือกลักษณะบุคลิกภาพในข้อที่ชอบและตรงกับตนเองแล้วลองปฏิบัติตาม บางครั้งชีวิตบางช่วงของเราหรือในชีวิตของคนเรานั้นเรา อาจจะมีความสุขก็ได้ อย่างไรก็ดีแนวความคิดทางจิตวิทยากับแนวปฏิบัติตามหลักศาสนาทุกศาสนาก็เป็นอีกแนวทางหนึ่งที่สร้างสุขให้ชีวิตได้ จิตที่มีดีกำกับพฤติกรรมภายนอกหรือบุคลิกภาพก็จะ ดีงามไปด้วย

มีนักคิดได้พยายามอธิบาย บุคลิกภาพที่ดี โดยใช้อักษรนำของตัวอักษรภาษาอังกฤษและให้ความหมาย ซึ่งน่าสนใจและสามารถตัดสินใจ เลือกเป็นแนวปฏิบัติได้ โดยมีรายละเอียด คือ

1. A = Attractive หมายถึง ความมีเสน่ห์

2. B = Bright หมายถึง ฉลาด หลักแหลม

3. C = Confident หมายถึง ความเชื่อมั่น ความมั่นใจ

4. D = Dependable หมายถึง พึ่งพา อาศัยได้

5. E = Enthusiasm หมายถึง กระตือรือร้น

6. F = Frank หมายถึง จริงใจ เปิดเผย

7. G = Generosity หมายถึง เอื้อเฟื้อ เผื่อแผ่

8. H = Honest หมายถึง ซื่อสัตย์

9. I = Independent หมายถึง เป็นอิสระ

10. J = Judge หมายถึง เที่ยงธรรม เที่ยงตรง

11. K = Kind หมายถึง ใจดี กรุณา

12. L = Learned หมายถึง คงแก่เรียน

13. M = Mighty หมายถึง แข็งแรง มีอำนาจ

14. N = Neat หมายถึง ประณีต เรียบร้อย

15. O = Optimistic หมายถึง มองในแง่ดี

16. P = Popular หมายถึง เป็นที่รัก เป็นที่สนใจ

17. R = Reasonable หมายถึง มีเหตุผล

18. S = Sincere หมายถึง จริงใจ

19. T = Trust หมายถึง ซื่อสัตย์ เชื่อถือได้

24. U = Urbane หมายถึง สุภาพ อ่อนโยน

25. W = Witty หมายถึง หลักแหลม

26. Y = Young หมายถึง มีความเป็นหนุ่มสาว มีไฟแรง

อักษรทั้ง 26 ตัว จะเป็นตัวแทนของบุคลิกภาพที่ควรมีในตัวบุคคล ส่วนจะมีตัวใดมากหรือตัวใดน้อย เจ้าของบุคลิกภาพย่อมรู้จักตนเองดี ถ้ายังไม่รู้อาจให้เพื่อนที่สนิทกับเราจริงๆ ช่วยบอก และถ้าสิ่งที่เพื่อนบอก บ้างครั้งบุคคลอาจจะไม่ชอบ ก็อย่าไปโกรธเพื่อน คิดเสียว่าให้เพื่อนติ เพื่อก่อ แล้วเราก็นำคำติ คำชมมาปรับปรุงมาพัฒนาบุคลิกภาพของเราให้ดียิ่งๆ ขึ้นต่อไป

อาจสรุปได้ว่าบุคลิกภาพที่ดีของบุคคลต้องมีลักษณะที่ดีทั้งสองส่วนคือ ร่างกายและจิตใจ เมื่อทั้งสองส่วนทำงานประสานสมบูรณ์ การมีสภาวะจิตที่สมบูรณ์คือการรู้เท่าทัน ความรู้สึกนึกคิด การอยู่กับปัจจุบัน มีความเป็นอิสระ มีสัมพันธภาพที่ดีกับคนอื่น มีแนวคิด ค่านิยมและเจตคติพื้นฐานในการดำรงชีวิตที่ดีมองโลกในแง่บวก คิดดี ปฏิบัติดีบุคลิกภาพก็จะสมบูรณ์และสมดุล

อาจสรุปได้ว่า บุคลิกภาพที่ดี เป็นแนวทางที่บุคคลประพฤติซึ่งต้องอาศัยสติปัญญา ความเชื่อถือและศรัทธาต่อชีวิตซึ่งจะทำให้ความต้องการต่างๆ ของบุคคลได้รับการตอบสนอง ทำให้เขาสามารถพัฒนาตนเองให้มีสติรู้ตัวอยู่เสมอ มีความรักตนเอง รักธรรมชาติ ละรักผู้อื่น

บุคลิกภาพที่ดี คือ บุคคลที่มีสุขภาพจิตดี (health person) โดยทั่วไปมนุษย์ มีธรรมชาติที่ดีมนุษย์มีแรงจูงใจไปทางด้านบวก มนุษย์เป็นผู้มีเหตุผล(rational) เป็นผู้ได้รับการ ขัดเกลา(socialized) และเป็นผู้สามารถตัดสินเลือกทางชีวิตของตนได้ถ้ามีอิสระเพียงพอและในสภาพการณ์ที่เอื้ออำนวยมนุษย์จะพัฒนาไปได้เต็มศักยภาพ (full potential) ฉะนั้น มนุษย์จึงเป็นผู้นำตนเอง (self-directing) และภายใต้สถานการณ์ที่มีเงื่อนไขเหมาะสม มนุษย์จะพัฒนาตนเอง ไปในทิศทางที่เหมาะสมกับความสามารถของบุคคลไปสู่การรู้จักตนเองอย่างแท้จริง (self-actualization)