กลูต้าไธโอน

  • Tab 1
  • Tab 2
  • Tab 3

Glutathione (กลูตาไทโอน)

กลูต้าไธโอน Glutathioneเป็นสารประเภท Tripeptide ที่ประกอบด้วยกรดอะมิโน 3 ชนิด ได้แก่ Cysteine, Glycine และ Glutamic acid กลูตาไธโอนเป็นสารแอนซิแดนท์ชนิดละลายน้ำได้ที่สำคัญที่ร่างกายสร้างขึ้น และเป็นพื้นฐานสำหรับ สารแอนติออกซิแดนท์ อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องซึ่งรวมทั้งกลูตาไธโอนเปอร์ออกซิเดส
สารประกอบกลูตาไธโอนช่วยปกป้องร่างกาย จากการทำลายของอนุมูลอิสระ ช่วยกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกัน และช่วยตับในการย่อยสลายสารพิษ ซึ่งร่างกายของเราจะผลิตมากขึ้น หากได้รับสารพิษเข้าไปเช่นจาก น้ำดื่ม ยาฆ่าแมลง สารเคมีต่างๆ อาหาร ซึ่งสิ่งเหล่านี้ จะทำลายเซลล์ร่างกายเราและระบบร่างกาย

เนื่องจากกลูตาไธโอนเป็นสารที่มีความสำคัญจึงได้มีการติดตามผลการรับประทานสารชนิดนี้เป็นอาหารเสริม เป็นเวลาหลายปีโดยตั้งคำถาม เกี่ยวกับการดูดซึมของสารอาหารชนิดนี้ นักชีววิทยาด้านเซลหลายคนเชื่อว่า กลูตาไธโอนถูกย่อยสลายให้เป็นส่วนประกอบย่อย ที่มีคุณสมบัติป้องกัน การทำปฏิกิริยากับออกซิเจน (ได้แก่กลูตาเมท ซิสเตอีน และกลัยซีน) ในระหว่างการย่อยสลาย แต่กลูตาไธโอนในรูป ที่ยังไม่ทำปฏิกิริยากับออกซิเจนนี้ เมื่อทำงานร่วมกับ สารแอนไธไซยานิดีนส์ (grape seed extracts) ที่มีคุณสมบัติเป็น สารแอนติออกซิแดนท์แล้ว ปรากฏว่าร่างกายสามารถดูดซึมได้ง่ายและเป็นประโยชน์ในทางการรักษาโรค

กลูต้าไธโอนได้รับสมญาว่า”หัวหน้าสารต้านอนุมูลอิสระ” มันช่วยให้เรามีสุขภาพดี และชวิตยืนยาว คนที่ต้องสัมผัสกับสารพิษปริมาณมากๆ (ที่เห็นชัดๆก็พวกที่ตั้งใจรับเข้าไปเองเช่น การดื่มเหล้า เบียร์ อัลกอฮอล์)จะมีการใช้กลูต้าไธโอนที่ร่างกายสร้างเองอย่างมาก (ซึ่งบางครั้ง ไม่เพียงพอ) หากร่างกายไม่มีกลูต้าไธโอนเซลล์จะตายอย่างรวดเร็ว นำไปสู่ความชรา และอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อโรค ซึ่งกระตุ้นด้วย อนุมูลอิสระเช่น มะเร็ง
กลูต้าไธโอนมีการใช้อย่างแพร่หลายและกว้างขวาง ปัจจุบันเราพบว่าเอาไปใช้ลดอาการเมาค้างเช่น แว๊กกี้ แฮงค์ อาหารผิวเพื่อขาวใสเช่น อิมิดีน บลิ๊งค์ ไอไบร้ท์ นูไวท์ คิวมารีน ลูมินัส (ราคาในท้องตลาดมีราคาแพงโดยเฉพาะส่วนผสมที่มีกลูต้าไธโอน 250 มก.) เป็นที่นิยมของดารา นางแบบ นายแบบ อย่างมาก

การรักษาระดับของกลูตาไธโอนในรูปที่ยังไม่ได้ทำปฏิกิริยากับออกซิเจนให้เพียงพอ อาจช่วยชะลอกระบวนการชรา และเพิ่มความต้านทานโรค ได้เช่นกัน เป็นสาร Detoxification เปลี่ยนสารพิษ ให้อยู่ในรูปที่ไม่เป็นพิษ เพื่อขับถ่ายทิ้ง เร่งประสิทธิภาพ การทำงานของวิตามิน C และ E และทำให้อยู่ในรูปที่ดูดซึมได้เร็วขึ้น พบได้ใน ปลา, เนื้อม Asparagus ,อะโวคาโด, วอลนัท

หน้าที่หลักของสารตัวนี่ที่เด่นมีอยู่ 3 ประการ คือ

  1. Detoxification : กลูตาไทโอนช่วยสร้างเอ็นไซม์ชนิดต่าง ๆ ในร่างกายโดยเฉพาะ Glutathion-S-transferase ที่ช่วยในการ กำจัดพิษออกจากร่างกายโดยไปเปลี่ยนสารพิษชนิดไม่ละลายในน้ำ (ละลายในน้ำมัน) เช่น พวกโลหะหนัก สารระเหย ยาฆ่าแมลง แม้แต่ยาบางชนิด ให้เป็นสารที่ละลายน้ำได้ดีขึ้นและง่ายต่อการกำจัดออกจากร่างกาย นอกจากนี้ยังช่วยป้องกันตับ จากการถูกทำลายโดย แอลกอฮอล์ (สุรา) สารพิษจากบุหรี่ ยาพาราเซตามอลเกินขนาด (Overdose) ฯลฯ
  2. Antioxidant : กลูตาไทโอนมีคุณสมบัติเป็นสารต้านปฏิกิริยาอ๊อกซิเดชั่น (Antioxidant) ที่มีความสำคัญตัวหนึ่งในร่างกาย และหากขาดไป วิตามินซีและอี อาจจะทำงานได้ไม่เต็มที่
  3. Immune Enhancer : ช่วยกระตุ้นภูมิคุ้มกันในร่างกาย โดยกระตุ้นการทำงานของเอ็นไซม์หลายชนิด เพื่อให้ร่างกายต่อต้าน สิ่งแปลกปลอมรวมถึงเชื้อแบคทีเรียและไวรัส นอกจากนี้กลูตาไทโอน ยังช่วยสร้างและซ่อมแซม DNA สร้างโปรตีนและ prostaglandin
ผลข้างเคียงในปัจจุบันยังไม่พบผลข้างเคียง
มีเพียงผลข้างเคียงเดียว แต่กลับเป็นผลข้างเคียงพึงประสงค์ของผู้หญิงเอเซียนั่นก็คือ”การที่มีผิวขาวใสขึ้น”
กลูต้าไธโอนทำให้เกิดอะไรกับร่างกายเรา
o ทำให้ผิวขาวขึ้น
o ลดริ้วรอยจุดด่างดำ
o ป้องกันสิวและรอยดำจากสิว
o ลดริ้วรอย จากวัย
o ทำให้ผิวเนียน ใส และเปล่งประกาย

ส่วนหน้าที่ในการเป็นสุดยอดของสารต้านอนุมูลอิสระช่วยเสริมระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย
• อาจช่วยป้องกันมะเร็งโดยเฉพาะมะเร็งตับ
• ปกป้องร่างกายจากอนุมูลอิสระ
• ช่วยกำจัดสารนิโคติน
• ช่วยเสริมฤทธิ์การทำงานของตับในการกำจัดสารพิษ
• มีบทบาทสำคัญในการป้องกันมะเร็งและใช้ในการรักษามะเร็ง(โดยเฉพาะที่มีการทำงานของตับเสียไป)
• ช่วยเพิ่มปริมาณเชื้ออสุจิ

ระดับของกลูต้าไธโอนที่ต่ำลงพบในกรณี
• • ภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่อง หรือเสื่อม
• • โรคที่การเสื่อมของระบบสมองและประสาทเช่น multiple sclerosis ,ALS, Alzheimer, and Parkinson's disease
• • ภาวะเป็นหมันในเพศชาย
• • ภาวะแทรกซ้อนจากการตั้งครรภ์
• • โรคหลอดเลือดเสื่อม
• • ต้อกระจก
• • ภาวะที่ได้รับยาเกินขนาด(โดยเฉพาะพาราเซตามอล)
• • มะเร็ง
• • เอดส์
• • แต่มีส่วนช่วยในต้านโรคหัวใจขาเลือด แก่ก่อนวัย โรคเรื้อรังต่างๆ
• • หมายเหตุ : มิได้หมายความว่ากลูต้าไธโอนใช้ในการรักษาโรคเหล่านี้

ใครควรเสริมกลูต้าไธโอน
• คนที่ติดบุหรี่ ดื่มอัลกอฮอล์
• อายุมากกว่า 40 ปี พวกที่ออกกำลังกายมาก เสริมสร้างหุ่น
• ชายที่จำนวนสเปิร์มน้อย ผู้เป็นโรคตับ
• ต้อกระจก ฟื้นจากเคมีบำบัด
• สำผัสสารเคมีฆ่าแมลงเป็นประจำ คนที่ภูมิคุ้มกันบกพร่อง
• ภาวะภูมิคุ้มกันต่ำ

ที่สำคัญที่สุดสำหรับผู้หญิงทั่วไปที่ต้องการในผิวเนียน ใส กระจ่าง (เป็นเหตุผลที่คนเสริมกลูต้าไธโอนมากที่สุด)

ผลข้างเคียง ในปัจจุบันยังไม่มีผลข้างเคียงใดๆรายงาน และไม่มีรายงานความเป็นพิษ ไม่ว่าจะเป็นการใช้ในระยะสั้นหรือระยะยาว ระดับความปลอดภัยจัดเป็น “อาหารเสริม” ไม่ใช่ “สมุนไพร” การผลิตโดยทั่วไปผ่านกระบวนการสังเคราะห์ ผลข้างเคียงที่มีรายงานคือ การกินปริมาณสูงติดต่อกันจะทำให้ผิวขาวใสขึ้น

ข้อห้ามใช้ : ยังไม่มีข้อห้าม แต่ไม่แนะนำสำหรับเด็ก สตรีมีครรภ์ และให้นมบุตร (ยังไม่มีการศึกษาเพียงพอแต่ไม่มีรายงาน ความเป็นพิษในคนกลุ่มนี้)
ไม่แนะนำให้ใช้ในผู้ป่วยมะเร็ง ที่ยังอยู่ในช่วงให้เคมีบำบัด และฉายแสง(การรักษาจะกระตุ้นในเกิดภาวะอนุมูลอิสระเพื่อหวังผลการักษา) แต่มีบางรายงานมีการใช้กลูต้าไธโอนในการรักษาช่วยลดผลข้างเคียงจากเคมีบำบัด แต่ไม่ลดฤทธิ์ของการรักษา

ปฏิกิริยากับยาอื่น : ยาจิตเวช haloperidol ,chemotherapeutic drug:cisplatin

กลไกที่ทำให้ผิวขาวของกลูต้าไธโอน เกิดจากกระบวนการสร้างเมลานิน โดยกลูต้าไธโอนไปลดการสร้างโดยการยับยั้งเอนไซม์ไทโรซิเนส และกระตุ้นให้สร้างฟีโอเมลานิน(สีอ่อนขาวชมพู) มากกว่ายูเมลานิน(เมลานินสีคล้ำ)

ผลของกลูต้าไธโอน ในเรื่องความขาวก็ต้องขึ้นกับสีผิวเดิมของผู้ที่เริ่มกิน หากมีสีผิวอ่อนอยู่แล้วก็เห็นผลไว แต่หากมีสีผิวคล้ำเดิมต้อง รอให้ร่างกาย สร้างเม็ดสีอ่อนใหม่ และเซลล์ผิวเก่าที่มีสีคล้ำผลัดหมดก่อน หากคล้ำมากอาจใช้เวลาเป็นปี

จากผลการทดลองพบว่าผู้ที่มีผิวสี
• ผิวสีน้ำตาลอ่อน : ใช้เวลาให้ขาวใส ประมาณ 1 - 3 เดือน
• ผิวสีน้ำตาลเข้ม : ใช้เวลาให้ขาวใส ประมาณ 3 - เดือน
• ผิวเข้มมาก : ใช้เวลาให้ขาวใส ประมาณ 6 - 12เดือน
• ผิวดำ(เช่นนิโกร) :ใช้เวลาประมาณ 2 ปีหรือมากกว่า

เมื่อร่างกายได้รับปริมาณที่เหมาะสมจะควบคุมการสังเคราะห์เม็ดสีเมลานิน ส่งผลให้ผิวหน้าและผิวกาย สวยขาวใส ไร้ริ้วรอยด่างคำ รวมถึงผิวทั่วเรือนร่าง เช่น ผิวใต้วงแขน ผิวบริเวณ บิกินี สีผิวริมฝีปากและสีผิวบริเวณหัวนม แลดูจางลง ขาวอมชมพูขึ้น และยังช่วย ลดเลือนริ้วรอย ทำงานร่วมกับวิตามินซี จะช่วยในเรื่องการดูดซึมและต่อต้านอนุมูลอิสระ ลดการสร้างเม็ดสีเมลานิน ที่ผิดปกติ อันเป็นสาเหตุของการเกิดความคล้ำของสีผิว กระ ริ้วรอยโดยช่วยให้ขนาดและความเข้มของรอยหมองคล้ำค่อยๆลดลง คืนความยืดหยุ่น เนียนสวยเป็นธรรมชาติ เพิ่มความแข็งแรงและความยืดหยุดของโปรตีนคอลลาเจน และอิลาสติน บำรุงผิวพรรณ ช่วยลดปฏิกิริยาการ เพิ่มเม็ดสีผิว เมื่อผิวหนังโดนแสงแดด และลดขนาดและความเข้มของฝ้าโดยไม่มีผลข้างเคียง

เขียนโดย นพ.ฉัตรชัย ศรีบัณฑิต

กลูตาไธโอนเป็นพันธะเปปไทด์ของกรดอะมิโน 3 ตัว ได้แก่ ซีสเตอีน กลูตาเมต และไกลซีน กลูตาไธโอนอยู่ในรูป reduced (GSH) และ oxidized (GSSG) โดย GSSG ถูก reduced ด้วย glutathione reductase สาร ascorbic acid จะเพิ่มการออกฤทธิ์ของ GSH ซึ่ง alpha lipoic acid (ALA) เพิ่มการออกฤทธิ์ของกลูตาไธโอนอาจกลับมาเป็น GSSG

กลูตาไธโอนเป็นพันธะเปปไทด์ของกรดอะมิโน 3 ตัว ได้แก่ ซีสเตอีน กลูตาเมต และไกลซีน กลูตาไธโอนอยู่ในรูป reduced (GSH) และ oxidized (GSSG) โดย GSSG ถูก reduced ด้วย glutathione reductase สาร ascorbic acid จะเพิ่มการออกฤทธิ์ของ GSH ซึ่ง alpha lipoic acid (ALA) เพิ่มการออกฤทธิ์ของกลูตาไธโอนอาจกลับมาเป็น GSSG

ลักษณะของกลูตาไธโอน
- กลูตาไธโอนเป็นสารต้านอนุมูลอิสระภายในเซลล์พบมากโดยเฉพาะอย่างยิ่งในเซลล์ตับ (จนถึง 5 mM)
- กลูตาไธโอนถูกสังเคราะห์โดย glutathione synthase โดยการใช้กรดอะมิโน 3 ชนิด : L-cysteine, L-glutamate และ glycine
- ตามธรรมชาติมี 2 รูปแบบ ได้แก่ reduced glutathione (GSH) และ oxidized glutathione disulphide (GSSG)
- อำนวยความสะดวกต่อการทำงานของภูมิคุ้มกัน
- เป็นสาร mitochondrial antioxidant
- เป็นสาร co-factor/ เอนไซม์ใน phase I enzymatic detoxification pathway
- Phase II detoxification pathway
- การป้องกันระบบประสาท

การลดลงของกลูตาไธโอน
- แสดงให้เห็นเด่นชัดอย่างเฉียบพลันในการขาดกลูตาไธโอนเมื่อรับประทานยาพาราเซตามอลเกินขนาด
- ผลของการลดลงของกลูตาไธโอนนี้เกิดใน hepatocyte ชักนำให้ตับวายและเสียชีวิตได้
- การขาดกลูตาไธโอนเรื้อรังมีความสัมพันธ์กับความผิดปกติทางภูมิคุ้มกัน เพิ่มการเกิดเนื้อร้าย และในกรณีโรคเอดส์ อาจเร่งให้เกิดโรคขึ้นมาได้
- การขาดกลูตาไธโอนเป็นผลใน tissue oxidative stress สามารถเกิดโรคได้ ยกตัวอย่างเช่น ผู้ที่เป็น G6PD (glucose 6-phosphate dehydrogenase deficiency) ทำให้เกิดปริมาณ NADPH และ reduced glutathione ลดลง
- Oxidative stress เป็นสาเหตุให้ขาดกลูตาไธโอนใน fragile erythrocyte membranes

ข้อบ่งใช้และการใช้ประโยชน์
- รักษาพิษจากยาพาราเซตามอล
- ใช้เบื้องต้นสำหรับ : มะเร็งบางชนิด โรคไขมันอุดตันที่ผนังหลอดเลือด (atherosclerosis) โรคเบาหวาน ปอดมีความผิดปกติโดยเฉพาะอย่างยิ่งโรคปอดอุดกั้น สูญเสียการได้ยินเนื่องมาจากเสียง ผู้ชายที่เป็นหมัน ป้องกันหรือทำให้พิษดีขึ้น ต้านเชื้อไวรัส ยากำพร้าในการรักษาเอดส์ที่สัมพันธ์กับภาวะขาดสารอาหาร

ผลข้างเคียง
- ผิวหนังแดง
- ความดันโลหิตต่ำ
- หอบหืดเฉียบพลัน
- อาจเกิด anaphylactic reaction จากการปนเปื้อนหรือความไม่บริสุทธิ์

ข้อห้ามและควรระวังเป็นพิเศษ
- ผู้ที่แพ้ยาฉีดกลูตาไธโอน
- ผู้ที่ปลูกถ่ายอวัยวะ
- แพ้, หอบหืด

สารที่ทำให้ขาดกลูตาไธโอน
- การสูบบุหรี่
- ดื่มแอลกอฮอล์
- คาเฟอีน
- ยาพาราเซตามอล
- ยา
- ออกกำลังกายหนัก
- รังสี X Y และยูวี
- Xenobiotics
- Estradiol

หน้าที่ของภูมิคุ้มกัน

การตอบสนองต่อภูมิคุ้มกัน
1. Th 1 pattern

1.1 IL12

- กระตุ้น NK cell และ T lymphocyte

- Cell mediated immune response

1.2 INF  interferon gamma, lymphocytic

- กระตุ้น NK cell, macrophages, antiviral

- กระตุ้นการป้องกันการต่อต้านไวรัส
2. Th 2 pattern

2.1 IL4

- anti-allergic reaction

- ยับยั้ง pro-inflammatory cytokines

2.2 IL10

- กดภูมิคุ้มกัน

- cytokine networking inhibiting activity

- modulate inflammatory response
3. การลดลงของกลูตาไธโอน

- ยับยั้ง Th 1 สัมพันธ์กับการสร้าง cytokine

- ช่วยการตอบสนองต่อ Th 2
4. การเพิ่มจำนวนอย่างรวดเร็วของ lymphocyte ในการตอบสนองต่อ mitogenic lectins ขึ้นอยู่กับการนำกลูตาไธโอนไปใช้ประโยชน์โดยตรง
5. การฟื้นฟูสภาพปกติในการเพิ่มจำนวนของ lymphocyte จากกลูตาไธโอนซึ่งเกิดจากภายนอกสัมพันธ์กับการออกฤทธิ์ภายในเซลล์มากกว่ากลูตาไธโอนภายนอกเซลล์
6. การศึกษายืนยันความสำคัญของกลูตาไธโอนภายในเซลล์ในการเพิ่มจำนวนของ lymphocyte
7. การสร้าง IFN- predominates เมื่อระดับกลูตาไธโอนสูง
8. การขาดกลูตาไธโอนอาจแสดงบทบาทสำคัญในโรคเอดส์ที่อาการแย่ลงหรือโรคติดเชื้ออื่น ๆ ใน Th 2 ที่มีผลสำคัญในพยาธิสภาพของโรค

หน้าที่ของภูมิคุ้มกัน
1. กลูตาไธโอนเป็น scavenger หลักของ reactive oxygen species
2. หน้าที่ของ lymphocyte เช่น ตอบสนองการสังเคราะห์ DNA, ตอบสนองอย่างดีต่อ reactive oxygen species และถูกช่วยเหลือด้วยกลูตาไธโอนระดับสูง
3. แม้ว่าเกิดการลดลงของกลูตาไธโอนพอสมควรภายในเซลล์มีผลสำคัญต่อหน้าที่ของ lymphocyte
4. ศึกษาหน้าที่ของ lymphocyte ในเซลล์เพาะเลี้ยงได้ง่ายขึ้น โดยพบการทดลองซึ่งภูมิคุ้มกันเพิ่มโดยสารประกอบ thiol
5. Interleukin 2-dependent functions, รวมทั้งการเพิ่มจำนวนของ T-cell, การกำเนิดของ CD8+ T-cell blasts, cytotoxic T-cell activity, lymphokine-activated killer cells และ natural killer cells เป็นการตอบสนองอย่างเฉพาะเจาะจงต่อการลดลงของกลูตาไธโอน

DETOXIFICATION
ตับ
อะไรคือการขจัดสารพิษ
- ร่างกายคนเราสัมผัสสารต่าง ๆ จำนวนมากตลอดชีวิต รวมทั้งพิษจากส่วนประกอบของยาและอาหาร แต่ร่างกายก็มีการจัดการโดยการขจัดพิษออกไป ต้องแปรสภาพตามระบบที่ซับซ้อนด้วยเอนไซม์ในการขจัดสารพิษ ระบบเอนไซม์โดยทั่วไปเพียงพอต่อปริมาณน้อยของการทำลายจาก xenobiotics ในหนังสือส่วนใหญ่แนะนำว่าสัมพันธ์กันระหว่างการขจัดสารพิษที่ไม่ดีกับโรคภัย เช่น โรคมะเร็ง โรคพาร์คินสัน โรคปวดเมื่อยโดยไม่ทราบสาเหตุ (fibromyalgia) และโรคเหนื่อยเรื้อรัง
- ข้อมูลต่าง ๆ พบว่าเป็นความสามารถส่วนบุคคลในการขจัดสารพิษออกจากร่างกายซึ่งอาจมีผลต่อมูลเหตุวิทยาของโรคเรื้อรัง

วิถีการขจัดสารพิษ
conjugation pathway แรกพบในปัสสาวะตั้งแต่ปี ค.ศ. 1773
1. Phase I system

1.1 สารที่มีส่วนเกี่ยวข้องหลักคือ cytochrome P450

1.2 ส่วนมากของยาจะถูกเผาผลาญผ่าน phase I biotransformation

1.3 ปฏิกิริยาหลัก ได้แก่ oxidation reduction hydrolysis hydration dehalogenation

1.4 สารที่ถูกเผาผลาญใน phase I จะเป็น reactive molecules ในหลายกรณีที่สารพิษเป็น parent molecules

1.5 หากไม่ถูกเผาผลาญต่อไปใน phase II conjugation อาจเป็นสาเหตุของการทำลายโปรตีน RNA และ DNA ภายในเซลล์

1.6 มีหลายการศึกษาพบหลักฐานที่สัมพันธ์กันระหว่างการเหนี่ยวนำ phase I และลด phase II มีการเพิ่มการเกิดโรค เช่น โรคมะเร็ง โรคเอสแอลดี (systemic lupus erythematosus) และโรคพาร์คินสัน
2. Phase II system

2.1 ปกติเกิดต่อจาก phase I

2.2 Conjugation ของสารตัวกลางเพื่อให้เกิดสารประกอบที่ละลายน้ำ

2.3 ขับออกทางปัสสาวะและน้ำดี

OXIDATIVE STRESS AND CANCER
ความเสี่ยง

โรคมะเร็ง
1. กลูตาไธโอนถูกพบว่า เป็นสารต้านการเกิดเนื้องอก (antitumor) และ chemoprotectant ใช้ลดพิษจากยามะเร็ง
2. การศึกษาในสัตว์ทดลอง กลูตาไธโอนลดมะเร็งตับที่เกิดจากสาร aflatoxin อย่างมีนัยสำคัญและเพิ่มการรอดชีวิต กลุ่มควบคุมเสียชีวิตภายใน 24 เดือน กลุ่มที่ได้รับกลูตาไธโอนยังคงมีชีวิตรอด 81% เมื่อสิ้นสุดการทดลอง 24 เดือน
3. นักวิจัยสรุปว่าสารต้านอนุมูลอิสระมีส่วนดีในการเป็นสารต้านเนื้องอกในมนุษย์
4. การศึกษามะเร็งในมนุษย์ได้ใช้ประโยชน์จากกลูตาไธโอนในบทบาทที่สอง ที่สำคัญคือ ป้องกันการต้านพิษของยา cisplatin
5. หลายการศึกษาพบว่าลดผลของยา cisplatin ในการเกิดพิษที่ไตและพิษต่อระบบประสาท

โรคหลอดเลือดหัวใจ (CAD; coronary artery disease)
1. นักวิจัยสมัยแรกศึกษาว่ากลูตาไธโอนจากภายนอกอาจเป็นส่วนสำคัญของการยับยั้งการรวมตัวของเกร็ดเลือด ปรับ hemostatic ให้ดีขึ้น ปัจจัยต่อการไหลเวียนของเลือดในผู้ป่วยสะสมไขมันอุดตันบริเวณหลอดเลือด

โรคเรื้อรังอื่น ๆ
1. กลูตาไธโอนแสดงการเพิ่มการหลั่งอินซูลินในผู้ที่อายุมากที่ความทนทานกลูโคสที่เสียไป
2. การศึกษาแบบ double-blind และ placebo-controlled พบว่าการฉีดกลูตาไธโอนก่อให้เกิดผลต่อการเคลื่อนไหวและรูปร่างของเสปิร์มในผู้ชายที่เป็นหมัน
3. กลูตาไธโอนแสดงการยับยั้งการเพิ่มจำนวนของไวรัส herpes simplex ชนิดที่ 1 ทาง in vitro
4. ในหลายการศึกษาพบการลดลงของกลูตาไธโอนสัมพันธ์กับโรคเหนื่อยเรื้อรัง
5. การลดลงของกลูตาไธโอนในเซลล์ไทรอยด์สัมพันธ์กับ autoimmune thyroiditis
6. เซลล์ไทรอยด์สร้างไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์เพื่อออกซิไดซ์ iodide ion เป็นส่วนหนึ่งของการผลิตไทรอยด์ฮอร์โมน
7. ภายในเซลล์ถูกป้องกันจากไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ด้วยกลูตาไธโอนที่อยู่ภายในเซลล์
8. เมื่อไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์เข้ามาภายในเซลล์ไทรอยด์ จะเข้าจู่โจมและเกาะติด thyroglobulin การผลิต C-terminal fragments จะกระจายเข้าไปในเซลล์อื่นและถูกจดจำด้วย auto-antibodies ในผู้ป่วยที่เป็น autoimmune thyroid disease

โรคพาร์คินสัน
1. ป้องกัน dopamine-induced cell death ด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ thiol อาจเป็นแนวทางการรักษาโรคพาร์คินสัน

โรคออทิสติก
1. ในการศึกษาเด็กที่เป็นออทิสติกพบว่ามีระดับ precursor ของกลูตาไธโอนและรูปที่ถูกเผาผลาญต่ำลงอย่างมีนัยสำคัญ
2. รูปออกฤทธิ์ถูกลดลง 80% ในเด็กออทิสติก


ปัจจัยการยับยั้ง melanogenesis

ผิวขาวขึ้น

สรุป

1. บทบาทของกลูตาไธโอนในยาแผนปัจจุบันและยาแผนทางเลือก

พิษจากยาพาราเซตามอล
โรคมะเร็ง
xenobiotics detoxification
โรคพาร์คินสัน
โรคอัลไซเมอร์
เพิ่มภูมิคุ้มกัน เอดส์ ต้านเชื้อไวรัส เชื้อ herpes simplex virus type I
โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง
สูญเสียการได้ยินเนื่องจากเสียง
ผู้ชายที่เป็นหมัน
ออทิสติก
โรคเหนื่อยเรื้อรัง
โรคหลอดเลือดหัวใจตีบ
ความดันโลหิตสูง
metabolic syndrome
autoimmune thyroiditis