สวยสมวัย

  • Tab 1
  • Tab 2
  • Tab 3
  • Tab 4
  • Tab 5

10 ปัจจัยห่างไกลความแก่

ทราบหรือไม่ว่าปัจจัยแห่งความแก่ และบ่อเกิดแห่งริ้วรอย มีผลมาจากการใช้ชีวิตประจำวันอย่างตามสบายของของคุณ สิ่งแรกที่ต้องเผชิญกับ แสงแดด มลภาวะ ฝุ่นควัน ต่างๆก็คือ ผิวของคุณนั่นเองค่ะ เพราะผิว เปรียบเสมือนหน่วยกล้าตาย ที่สัมผัสกับสภาพแวดล้อมก่อนสิ่งอื่นใด แถมยังมีปัจจัยภายในที่คุณทั้งตั้งใจ และไม่ได้ตั้งใจให้มันเข้าไปส่งผลกระทบต่อผิวของคุณ เช่น อาหาร ความเหนื่อยล้า หรือความเครียด

เมื่ออาการหน้าแก่ ไม่ใช่อาการที่เป็นมาแต่กำเนิด คุณเองก็คงไม่ปล่อยให้ใครๆเรียก พี่ หรือ ป้า ทั้งที่คุณยังสาวสนิทใช่ไหม๊คะ 10 ปัจจัยแห่งหารห่างไกลความแก่ มีดังนี้

  1. ใช้ครีมกันแดดทุกครั้ง หากคุณจำเป็นต้องทำกิจกรรมกลางแจ้ง เพราะรังสียูวีมีผลต่อความแก่ถึง 90% แถมยังทำให้หน้าของคุณหมองคล้ำ และทำให้น้ำหล่อเลี้ยงความงามตามธรรมชาติลดลง จนเกิดริ้วรอยในที่สุด
  2. ใช้มอยซ์เจอร์ไรเซอร์ทุกวัน เพื่อให้ผิวหน้าสดใส ไร้รอยเหี่ยวย่น และยิ่งต้องใช้มากขึ้นหากคุณอยู่ในวัยหมดประจำเดือน เพราะผิวของคุณจะแห้งกว่าผิวสาวๆ และนี่เองจึงเป็นเหตุให้ สาวที่อายุมาก และรอยเหี่ยวย่นได้ง่าย และทำให้ผู้หญิงดูแก่เร็วกว่าผู้ชายไงคะ
  3. ทาโลชั่นเป็นประจำ สำหรับสาวๆ หากไม่ต้องการให้ผิวเหนอะหนะ อาจเลือกประเภทออยฟรี หรือ เจลก็ได้ แต่สำหรับสาววัยหมดประจำเดือนต้องใช้แบบที่มีน้ำมันบำรุงมากๆเท่านั้นค่ะ เพราะประสิทธิภาพในการผลิตน้ำมันตามธรรมชาติของคุณมันได้ลดลงไปแล้ว
  4. เปลี่ยนรูปแบบการดำรงชีวิตประจำวันบางประการ เช่น สวมแว่นกันแดด เพื่อหลีกเลี่ยงการที่คุณต้องหยีตา ทุกครั้งที่แดดจ้า การหยีตาจะทำให้ผิวหนังรอบบริเวณดวงตา โดยเฉพาะใต้ตาเป็นรอยเหี่ยวถาวร และตีนกาพากันขึ้นที่หางตาโดยไม่ได้นัดหมาย
  5. ทาครีมบำรุงรอบดวงตา เพื่อเสริมความชุ่มชื้นเป็นประจำ ครีมที่ว่านี้เป็นคนละตัวกับเจลสำหรับทาเพื่อลบรอยดำรอบดวงตานะคะ
  6. ใช้ครีมล้างหน้า ชำระล้างเครื่องสำอางก่อนการล้างหน้าด้วยโฟมทุกครั้ง ทั้งนี้เพื่อลดปัญหาการอุดตันของเครื่องสำอาง อันจะก่อให้เกิดสิวบนใบหน้าค่ะ
  7. งดการสูบบุหรี่ เพราะนอกจากจะทำให้ลมหายใจของคุณไม่สะอาด มีกลิ่นปาก มีคราบฟันแล้ว นิโคตินยังมีผลต่อในการ ลดการไหลเวียนของเลือดที่มาหล่อเลี้ยงบริเวณใบหน้าอีกด้วย สารอาหารต่างๆจะไม่สามารถถูกส่งไปเลี้ยงร่างกายได้อย่างทั่วถึง ทำให้คอลาเจนเกิดการแตกคัว คนที่สูบบุหรี่มาก มักจะเกิดรอยเหี่ยวย่นบริเวณรอบดวงตา และรอบปาก อย่างเห็นได้ชัด
  8. ลดความเครียดลงบ้าง ทุกครั้งที่คุณเครียด คุณอาจไม่ทราบหรอกว่า หัวคิ้วของคุณมันเข้ามาชิดติดกันอย่างแทบจะแยกกันไม่ออก หน้าผากก็จะย่นเป็นริ้วๆ ดังนั้นเมื่อรู้สึกเครียดให้พยายามส่องกระจก สำรวจใบหน้าของคุณเอง หากเริ่มเหี่ยวย่นละก้อ ให้พยายามสูดหายใจลึกๆ ทำจิตใจให้สบายและยิ้มรับสถานการณ์ค่ะ
  9. อย่ายิ้มมากจนเกินไป ในที่นี้หมายถึง การยิ้มแบบหยีตา ที่จะทำให้เกิดรอยตีนกาเป็นริ้วๆที่หางตาค่ะ
  10. อย่าดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์มากเกินไป หากคุณอดไม่ได้จริงให้ค่อยๆลดจนเหลืออาทิตย์ละไม่เกิน 2 แก้วเท่านั้น

ทั้ง 10 ปัจจัยนี้ หากคุณปฏิบัติได้ คงไม่ต้องสงสัยเลยว่า ทำไมใครๆก็เรียกคุณว่า "น้อง" ทั้งที่คุณน่ะ อายุจะย่างเข้าเลข 4 แล้ว หรือพวกน้องๆในมหาวิทยาลัย ต่างคิดว่าคุณเป็นซีเนียร์ ทั้งที่คุณน่ะจบมาเกือบ 10 ปีแล้ว แหม! ก็ความสาวนี่ละค่ะเป็นเหตุ


Get Away Wrinkle !!!

หลีกหนีจากริ้วรอยด้วย 10 วิธีง่ายๆ ริ้วรอยไม่ใช่สิ่งที่เกิดขึ้นกับเฉพาะผู้ที่มีอายุมากเท่านั้น แต่สามารถเกิดขึ้นได้จากสภาพแวดล้อมที่เป็นพิษ เครียดหรือทำหน้านิ่วคิ้วขมวดล้วนส่งผลให้เกิดริ้วรอยก่อนเวลาอันควรทั้งนั้น รู้อย่างนี้แล้วเรามาหลีกหนีริ้วรอยกันดีกว่า ด้วย 10 วิธีง่ายๆ ดังนี้

1. ทาครีมกันแดดทุกวัน
ก็รังสียูวีเอและยูวีบีนี่ล่ะ ที่เป็นตัวการสำคัญที่ทำให้เกิดริ้วรอย ดังนั้นควรทาครีมกันแดดทุกครั้งก่อนออกจากบ้านจะได้ป้องกันผิวไม่ให้ไหม้แดด อันเป็นสาเหตุทำให้เกิดริ้วรอย แล้วยังเป็นการป้องกันมะเร็งผิวหนังไปในตัวด้วย

2. ล้างหน้าให้หมดจด หลังจากเสร็จภารกิจประจำวัน ไม่ว่าจากงานหรือเริงร่าอย่าลืมล้างหน้าให้สะอาดหมดจด ห้ามลืม ห้ามเผลอ ห้ามขี้เกียจ เป็นอันขาด ล้างเครื่องสำอางให้หมด แล้วจึงตามด้วยสบู่ล้างหน้าที่เหมาะกับผิวเพื่อขจัดสิ่งสกปรก และช่วยให้ผิวได้หายใจปลอดโปร่งยิ่งขึ้น

3. ครีมบำรุงผิว
คืนความชุ่มชื้นให้แก่ผิวหน้า ด้วยการโปะไนท์ครีมก่อนนอนและเสริมด้วยการดูแลผิวอย่างล้ำลึก เช่น มาส์กหน้า หรือสครับ อาทิตย์ละครั้งเพื่อเป็นการขจัดเซลล์ผิวที่เสื่อมสภาพออกไปช่วยให้ผิวคืนสู่ความสดใสมีชีวิตชีวา

4. ฉลาดเลือก Make-Up
ด้วยการใช้ครีมรองพื้นคอนซีลเลอร์ นอกจากจะช่วยปกปิดริ้วรอยอยู่แล้ว ยังลดความหมองคล้ำรอยดำ แนะนำให้เลือกเครื่องสำอางที่มีส่วนผสมของสารสกัดธรรมชาติ วิตามินและสารกรองแสงแต่งหน้าเพราะนอกจากจะสวยงามแล้วยังมีคุณค่าต่อผิวอีกด้วย

5. ใส่แว่นกันแดด
เป็นการปกป้องผิวรอบดวงตาจากรังสีอัลตราไวโอเลต แล้วยังช่วยลดอาการหรี่ตา ย่นคิ้ว สาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดรอยตีนกาได้ชะงัดนัก

6. อย่าเครียด
สังเกตดูว่าทุกครั้งที่คุณเครียด รอยย่นระหว่างคิ้วจะเกิดขึ้นทันที ยิ่งทำบ่อยรอยย่นจะคงอยู่ถาวร พยายามผ่อนคลายด้วยการทำกิจกรรมต่างๆ หรือหลับตานิ่งๆ ฟังเพลงเพราะ แค่นี้ก็ช่วยได้แล้ว

7. งดสูบบุหรี่
การสูบบุหรี่ทำให้ออกซิเจนไม่สามารถไปหล่อเลี้ยงผิวพรรณได้เต็มที่และเพียงพอทำให้เซลล์ผิวหนังไม่สดใส และส่งผลให้เกิดเซลล์ใหม่ล่าช้า อีกทั้งเร่งให้เกิดริ้วรอยบนใบหน้าเร็วขึ้น ที่สำคัญคือรอยย่นเล็กๆ บริเวณริมฝีปาก รู้อย่างนี้แล้วรีบเลิกสูบบุหรี่ได้แล้วค่ะ

8. เลือกอาหารที่มีประโยชน์
นอกจากจะให้ประโยชน์กับร่างกายแล้วยังให้ประโยชน์กับผิวพรรณด้วยผักและผลไม้ที่มีแร่ธาตุ และวิตามินทำให้ผิวพรรณชุ่มชื้นได้แก่ บลูเบอร์รี่, สตรอว์เบอรี่, ผักโขม, ถั่วต่างๆ, อะโวคาโด, แคนตาลูป, น้ำมันมะกอก, เมล็ดทานตะวัน รีบหามาทานด่วน

9. ดูแลสุขภาพ
ด้วยการออกกำลังกาย ให้ร่างกายกระฉับกระเฉง ช่วยกระชับกล้ามเนื้อ และอย่าอดนอน เพราะจะทำให้หน้าดูโทรม และมีรอยคล้ำใต้ตาตามมาอีกด้วย

10. ใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวโดยเฉพาะ
สำหรับผิวที่เริ่มมีริ้วรอย การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวขั้นล้ำลึกจะช่วยให้ผิวค่อยๆ ฟื้นคืนสภาพมาอยู่ในภาวะที่สมดุลมากขึ้น เพราะมีส่วนผสมที่ช่วยแก้ไขและป้องกันริ้วรอยที่จะเกิดขึ้นในอนาคต

ขั้นตอนการลบริ้วรอยยอดนิยม

ขั้นตอนการลบริ้วรอยที่ได้รับความนิยมในปัจจุบันคือ การลบริ้วรอยด้วยกรดผลไม้หรือที่รู้จักกันดีในชื่อ Alpha Hydroxy Acids (AHA) ซึ่งจะได้จากการหมัก อ้อย ส้ม มะนาว มะขาม แอปเปิ้ล และยีสต์ เป็นต้น

AHA ที่มีวางจำหน่ายในท้องตลาดส่วนใหญ่จะอยู่ในรูปของครีมบำรุงผิวประเภทไนท์ครีม หรือครีมทาก่อนนอน เพื่อกระตุ้นให้เซลล์ที่แก่หลุดลอกออกไปให้เซลล์ใหม่ที่อ่อนกว่าขึ้นมาทดแทน

กรดวิตามิน เอ เป็นยาอีกตัวที่ได้รับความนิยมใช้ในวงการความสวยความงามส่วนใหญ่จะมีวางจำหน่ายในรูปของยารักษาสิว ไม่ค่อยนิยมใช้ลอกหน้าเท่าที่ควรแต่ปัจจุบันนี้ทางคณะกรรมการอาหารและยาของสหรัฐอเมริกาได้อนุมัติให้ใช้สาร Tretinoin (เตรทตินอยน์) ซึ่งเป็นกรดวิตามินเอร่วมกับอีโมเลียนท์ครีมที่ให้ความชุ่มชื้นและป้องกันการสูญเสียความชุ่มชื้น ซึ่งเป็นครีมลบริ้วรอยและกันแดดตัวเดียวในอเมริกาที่ได้รับการรับรองผลการรักษา หลักการทำงานของ Tretinoin ก็คือการทำให้เซลล์เก่าหลุดลอกออกไป และมีการกระตุ้นให้เซลล์ผิวหนังแท้เกิดขึ้นมาแทนที่ ซึ่งก็คือหลักการเดียวกับการใช้กรด AHA ที่มีความเข้มข้นสูงในการลบริ้วรอย แต่ให้ผลที่ดีกว่ามาก

การลอกหน้า หรือการทำ " Baby face " เป็นวิธีการที่ช่วยเนรมิตให้ใบหน้าอันเหี่ยวย่นของคุณผู้หญิงเต่งตึงขึ้นมาในเวลาเพียงไม่กี่วัน ซึ่งการทำเบบี้เฟซจะมีการลอกหน้า 3 แบบด้วยกัน คือ แบบตื้น แบบปานกลาง และแบบลึก
การทำเบบี้เฟซตามคลินิกความงามทั่วไปมักใช้สารที่มีชื่อเรียกว่า " ฟีนอล " ซึ่งเป็นตัวยาที่ค่อนข้างจะให้โทษมากกว่าคุณ เพราะจากการศึกษาพบว่าฟีนอลทำให้เกิดการเต้นของหัวใจผิดปกติซึ่งอาจทำให้เสียชีวิตได้ ฉะนั้นหากต้องการทำจริงๆก็ควรเลือกร้านที่มีแพทย์ประจำจะดีกว่า

นอกจากการลอกหน้าแล้ว " การกรอหน้า " เพื่อให้เซลล์ผิวหนังที่ตายแล้วหลุดลอกซึ่งเป็นกรรมวิธีเก่ากลับมานิยมใหม่ โดยอันตรายของการกรอหน้าอยู่ที่แรงกดในการกรอหรือความลึกของผิวหนังที่กรอออกไป เพราะถ้าหากกรอลึกเกินไปอาจทำให้เป็นแผนเป็นแบบถาวร แต่วิธีใหม่ที่กำลังมาแรง คือ กรอด้วยแสงเลเซอร์ ( Laser Demabrasing ) ซึ่งกรอความลึกได้ค่อนข้างสม่ำเสมอ แต่ควรอยู่ในความดูแลของแพทย์ผู้ชำนาญ และต้องระวังรอยดำที่เกิดขึ้นหลังการทำด้วย

การศัลยกรรมให้ผิวพรรณดูเต่งตึงขึ้นยังทำได้หลายวิธี อาทิ ฉีดซิลิโคน ร้อยคอเท็ก ฉีดไขมัน หรือสาร Collagen ซีงเป็นโปรตีนที่ได้จากวัวและแกะ เพื่อเพิ่มรอยให้ตื้น สิ่งที่ควรระวังคือการแพ้และการติดเชื้อ

ริ้วรอย เรื่องที่สาว ๆ ควรระวัง

ริ้วรอย ปรากฏขึ้นพร้อมกับวัย และริ้วรอย ปรากฏขึ้นแม้คุณยังอ่อนเยาว์
ในโลกของธรรมชาติ "ริ้วรอย" คือเครื่องยืนยันถึงความน่าเชื่อถือและความสง่างามในการใช้ชีวิต แต่ในความเป็นจริงแล้ว..การปรากฏของริ้วรอยที่แม้จะเป็นเพียงเส้นบางๆ เพียงเส้นเดียวก็สามารถส่งผลต่อความสวยใสของคุณได้ และถ้ายิ่งริ้วรอยนั้นลึก เด่นชัดมากขึ้น นั่นคือ คุณดูแก่ก่อนวัย!! ริ้วรอยจะหายไปโดยเร็วตอนคุณยังอายุน้อย เมื่อวัยเพิ่มขึ้น ริ้วรอยเหล่านี้จะยิ่งเพิ่มขึ้นและไม่สามารถกลับคืนสู่สภาพผิวเรียบเนียนได้ดังเดิม ซึ่งจะปรากฏอยู่บริเวณรอบดวงตา แก้ม และริมฝีปาก

ริ้วรอย ยังบอกความรู้สึกและพฤติกรรมต่างๆ ของคุณได้อีกด้วย ขึ้นอยู่กับว่าปรากฏอยู่ตรงส่วนใด หากเกิดบริเวณร่องแก้มหรือปลายหางตา แสดงว่าคุณเป็นคนอารมณ์ดียิ้มแย้มอยู่เสมอ หากเกิดเป็นรอยตั้งระหว่างหัวคิ้ว แสดงว่าคุณมักมีเรื่องไม่สบายใจอยู่เสมอ การมีริ้วรอยบนหน้าผาก บ่งบอกว่าคุณชอบเลิกคิ้ว ริ้วรอยรอบลำคอนอกจากจะบอกถึงวัย ยังบอกได้ว่าคุณมักจะใช้หมอนที่สูงเกิน จนทำให้คอพับมาข้างหน้าในขณะที่นอนหลับ การทำความรู้จักกับลักษณะต่างๆ ของริ้วรอย เป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งในการดูแลผิวพรรณต่อต้านริ้วรอย เพราะลักษณะนิสัย, การเคลื่อนไหวของใบหน้า และพฤติกรรมต่างๆ อาจทำให้ริ้วรอยลึกขึ้น

ริ้วรอยบนหน้าผาก
เกิดจากการแสดงออกทางสีหน้า และทำให้ใบหน้าดูมีอายุขึ้น คุณจำเป็นต้องระมัดระวัง ถ้าคุณมีนิสัยชอบเหลือกตาขึ้นข้างบน หรือขยับคิ้วขึ้น และลง

ริ้วรอยระหว่างเรียวคิ้ว
บ่อยครั้งมักปรากฏกับบุคคลที่นิ่วหน้าเวลาครุ่นคิด หรือเพ่งมองเกี่ยวกับอะไรบางอย่าง และทำให้สีหน้าดูไม่สบายใจ เป็นสิ่งสำคัญที่จะไม่หงุดหงิด หรือมองเรื่องใดๆ ในแง่ลบ

ริ้วรอยบนเปลือกตาบน
ริ้วรอยเส้นบางๆ อันเนื่องมาจากความแห้ง บ่อยครั้งมักเกิดขึ้นบริเวณนี้ ดังนั้น การให้ความชุ่มชื้นแก่ผิวจึงเป็นสิ่งสำคัญ

ริ้วรอยหางตา
เป็นริ้วรอยเส้นบางๆ ที่เรียกว่าตีนกา บ่อยครั้งมักปรากฏกับคนที่ชอบหัวเราะมากๆ

ริ้วรอยใต้ตา
ริ้วรอยพับย่น บ่อยครั้งมักปรากฏบริเวณนี้ และทำให้ใบหน้าดูโรยล้า หนึ่งในสาเหตุต่างๆ ก็คือการทำงานหน้าจอคอมพิวเตอร์เป็นเวลานาน จนทำให้ดวงตาอ่อนล้า

ริ้วรอยรอบคอ
รอยเส้นลึกแนวขวางปรากฏขึ้นตามวัย จึงทำให้กล่าวได้ว่า ริ้วรอยรอบลำคอจะบอกถึงอายุของคนเรา ถ้าคุณใช้หมอนรองศีรษะที่ทำให้คอของคุณแอ่นไปข้างหน้า นั่นอาจเป็นสาเหตุก่อให้เกิดริ้วรอยรอบคอของคุณได้ อย่าลืมดูแลลำคอของคุณ

ริ้วรอยรอบริมฝีปาก
ริ้รอยลึกแนวยาว ปรากฏเป็นแนวพาดจากข้างจมูกลงมาถึงมุมปาก และก่อให้เกิดสภาพริ้วรอยแห่งวัย การทำมุมปากตก ห้อย ทำให้ใบหน้าดูมีความไม่พึงใจ ไม่สบายใจ คุณจำเป็นต้องใส่ใจต่อลักษณะหย่อนคล้อยของพวงแก้ม และรอบริมฝีปาก

งามตามวัยและสูตรชะลอความแก่

เมื่อเข้าสู่วัยทอง ผิวพรรณที่เคยสดใสเต่งตึง จะเริ่มเสื่อมสภาพไป โดยเฉพาะผู้หญิง เนื่องจากขาดฮอร์โมนเอสโตรเจน การดูแลผิวพรรณอย่างถูกวิธีจะช่วยชะลอความเสื่อมสภาพของผิว และทำให้ผิวพรรณคงความงามต่อไป แม้ว่าอายุจะมากขึ้นก็ตาม
ทั้งหญิงและชายควรเริ่มใส่ใจดูแลผิวพรรณตั้งแต่อยู่ในวัยหนุ่มสาว เพื่อให้เซลล์ผิวแข็งแรงมาแต่เดิม จะดีกว่าเพิ่งมาดูแลเมื่ออยู่ในช่วงวัยทอง หรือกันไว้ดีกว่าแก้นั่นเอง

โครงสร้างของผิวหนัง
ชั้นหนังกำพร้า เป็นชั้นที่อยู่นอกสุด ทำหน้าที่รักษาความชุ่มชื้นให้กับผิว รักษาอุณหภูมิของร่างกายให้คงที่ และป้องกันเชื้อโรคเข้าสู่ร่างกาย

เมื่อเข้าสู่วัยทอง ชั้นหนังกำพร้าจะเริ่มบางลง ผิวหนังถลอก ติดเชื้ออักเสบ เกิดอาการแพ้เป็นผื่นได้ง่าย ในบางราย เซลล์เนื้อเยื่ออาจเกิดการแบ่งตัวผิดปกติ กลายเป็นเนื้องอกหรือมะเร็งผิวหนังได้

ชั้นหนังแท้ ประกอบไปด้วยเส้นใยที่ประสานกัน เพื่อช่วยเสริมความแข็งแรงของเนื้อเยื่อ มีต่อมเหงื่อทำหน้าที่สร้างและขับน้ำออกจากร่างกายเพื่อปรับอุณหภูมิ และต่อมไขมันทำหน้าที่ขับไขมันออกมาปกป้องผิว นอกจากนี้ยังมีปลายเส้นประสาทและปลายของหลอดเลือดแดงและท่อน้ำเหลืองอยู่ภายในชั้นหนังแท้ ทำหน้าที่หล่อเลี้ยงเซลล์ผิวหนัง

เมื่อเข้าสู่วัยทอง ชั้นหนังแท้จะบางลงเช่นกัน โดยเฉพาะในหญิงวัยทอง เส้นใยที่ประสานกันอยู่จะขาดความยืดหยุ่น ทำให้ผิวหนังเกิดรอยเหี่ยวย่น ต่อมเหงื่อจะมีจำนวนลดลงและเสื่อมประสิทธิภาพ จึงขับเหงื่อออกจากร่างกายได้น้อย ทำให้ทนต่ออากาศร้อนได้น้อยลง ต่อมไขมันก็ทำงานน้อยลง ผิวหนังจึงแห้งและเป็นขุยได้ง่าย ส่วนปลายประสาทรับความรู้สึกก็จะทำงานลดลงเช่นกัน

ชั้นไขมัน ทำหน้าที่ช่วยลดการกระแทกและให้ความอบอุ่นแก่ร่างกาย เมื่อเข้าสู่วัยทอง ผิวหนังชั้นไขมันในตำแหน่งต่างๆ จะหนาบางไม่เท่ากัน ไขมันบริเวณเอว สะโพก ช่วงขา และใต้คาง จะหนาขึ้น ในขณะที่ไขมันบริเวณวงแขนและส้นเท้าจะบางลง

นอกจากสภาพผิวพรรณที่เปลี่ยนแปลงไปในวัยทองแล้ว เส้นผมและขนก็จะลดจำนวนลงและมีขนาดบางลง ทำให้ผมบาง ยิ่งกว่านั้นยังเกิดผมหงอกเนื่องจากเซลล์เม็ดสีเสื่อมสภาพไป นอกจากนี้ เล็บก็ยังเปราะบางและหักได้ง่าย

อย่างไรก็ตาม การเสื่อมสภาพตามวัยดังกล่าวเป็นเพียงส่วนหนึ่งที่ทำให้ผิวพรรณเปลี่ยนแปลงไป การเปลี่ยนแปลงส่วนใหญ่ถึงประมาณ 70% เกิดจากสภาพแวดล้อม โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากแสงแดด รังสีอัลตราไวโอเลตในแสงแดดจะค่อยๆ ทำลายผิวพรรณทีละเล็กทีละน้อย ทำให้ผิวหนังขาดความยืดหยุ่นและเกิดรอยเหี่ยวย่น เมื่อถูกแสงแดดเป็นเวลานานๆ จะทำให้ผิวหนังหนาและหยาบกระด้าง มีจุดด่างดำตามบริเวณที่ถูกแสงแดด หรืออาจทำให้เป็นมะเร็งผิวหนังได้

นอกจากนี้ยังมีสาเหตุอื่นๆ ที่ทำให้เกิดริ้วรอยบนผิวหนัง ได้แก่ สภาพแวดล้อมที่เป็นพิษต่างๆ มลภาวะสารเคมี ความร้อน ความอ้วน การสูบบุหรี่ การขยับกล้ามเนื้อบนใบหน้าในท่าซ้ำๆ แม้แต่การนอนในท่าเดิมซ้ำๆ เช่น นอนตะแคงข้างใดข้างหนึ่งเป็นประจำ ก็ทำให้เกิดริ้วรอยจากการนอนทับขึ้นได้

วิธีชะลอความแก่และป้องกันริ้วรอย ทำได้โดย
1.หลีกเลี่ยงแสงแดด
- หลีกเลี่ยงแสงแดดจัดๆ ในช่วงเวลา 10.00-15.00 น. เพราะเป็นช่วงที่มีรังสีอัลตราไวโอเลตสูงสุด หากจำเป็นต้องออกแดดช่วงนั้น ก็ควรกางร่ม
- ใช้ครีมกันแดดที่มีค่าเอสพีเอฟ 15 ขึ้นไป โดยทาครีมก่อนออกแดดประมาณ 30 นาที ควรเลือกชนิดกันน้ำและไม่มีส่วนผสมของน้ำหอม อาจจำเป็นต้องทาซ้ำหากต้องทำกิจกรรมที่ทำให้ครีมลบเลือนได้ง่าย
2.หลีกเลี่ยงการกระทำที่ทำให้เกิดรอยเหี่ยวย่น
- ควรเปลี่ยนท่านอนบ่อยๆ และใช้หมอนทรงเตี้ย เพื่อป้องกันริ้วรอยที่จะเกิดขึ้น
- หลีกเลี่ยงการบริหารกล้ามเนื้อใบหน้าซ้ำๆ เพราะจะทำให้รอยย่นเด่นชัดขึ้น
- สวมแว่นกันแดด สวมหมวก หรือกางร่มขณะออกแดด เพื่อลดการหยีตา ซึ่งจะเพิ่มรอยตีนกาให้มากขึ้น
3.หมั่นดูแลผิวให้ชุ่มชื้น
- ทาครีมหรือโลชั่น เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว
- สำหรับบางคนที่จำเป็นต้องได้รับฮอร์โมนทดแทน ฮอร์โมนทดแทนจะช่วยให้ผิวหนังมีความยืดหยุ่นและชุ่มชื้นขึ้นได้
4.รับประทานอาหารที่มีประโยชน์
- รับประทานอาหารให้ครบทุกหมู่ โดยเฉพาะเบต้าแคโรทีน วิตามินซี และวิตามินอี ซึ่งจะทำหน้าที่เป็นสารแอนตี้อ็อกซิแดนท์ที่กำจัดอนุมูลอิสระ ช่วยชะลอการเสื่อมของผิวหนัง ช่วยป้องกันการเกิดโรคมะเร็งบางชนิด ป้องกันไม่ให้หลอดเลือดตีบตัน ซึ่งเป็นต้นเหตุของโรคหลอดเลือดหัวใจอุดตันและหลอดเลือดในสมองตีบ นอกจากนี้ยังช่วยให้สายตามองเห็นในที่มืดได้ดี และช่วยป้องกันโรคต้อกระจกในผู้สูงอายุได้
แหล่งอาหารที่มีสารแอนตี้อ็อกซิแดนท์มากที่สุด คือผักและผลไม้ที่มีสีส้ม สีเหลือง หรือสีแดง เช่น แครอท ฟักทอง มะเขือเทศ และแตงโม เป็นต้น
5.พักผ่อน ออกกำลังกาย ไม่เครียด
- พักผ่อนนอนหลับให้เพียงพอ ผิวพรรณจะสดใส
- ออกกำลังกายเป็นประจำสม่ำเสมอให้เหมาะสมกับวัย เพื่อช่วยให้การหมุนเวียนโลหิตในร่างกายดีขึ้น ทำให้ผิวหนังได้สารอาหารและออกซิเจนเพิ่มขึ้น
- ทำจิตใจให้แจ่มใส ไม่เครียด จะช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อ ผิวหนังจะได้รับเลือดไปหล่อเลี้ยงเพิ่มขึ้น
หากดูแลตัวเองได้ตามนี้ รับรองว่าแม้ผิวพรรณจะไม่เต่งตึงเหมือนหนุ่มๆ สาวๆ แต่ก็เรียกได้เต็มปากเต็มคำว่า งามตามวัย ค่ะ

Source : ผู้จัดการออนไลน์ - เอมอร คชเสนี