อะไรคือฮวงจุ้ย

อะไรคือฮวงจุ้ย?

ฮวงจุ้ยคือ การจัดการควบคุมพลังตามธรรมชาติ (ขี่หือชี่) ที่ส่งผ่านมาจากโลก และจักรวาล ถ้าเราอยู่ที่ไหนในโลกนี้ และมีพลังธรรมชาติที่ดี มีกระแสคลื่นที่ดี ชีวิตของเราก็จะดี มีพลัง ทำอะไรก็สำเร็จ เพราะเราต้องการพลังธรรมชาติมาเสริมตัวเรา พลังขี่ ซึ่งจะทำให้มีโชค มีโอกาสดีๆ ถ้าเราแน่ใจในพลังนี้ พยายามทำอะไรก็ได้ช่วยเสริมพลังดังกล่าว เราก็จะมีชีวิตที่ดีขึ้น

การจะจัดฮวงจุ้ยในสถานที่อยู่ ที่ทำงาน ฯลฯ มีปัจจัยหลายปัจจัย ทั้งแบบโบราณ(ดั้งเดิม)และแบบพัฒนา(แบบวิทยาศาสตร์ ปรัชญา) ที่ช่วยได้ ในที่นี้จะกล่าวถึงศาสตร์โบราณของชนชาติจีนและบวกการพัฒนาสมัยใหม่ด้วย อย่างง่ายๆ ซึ่งจะทำให้มีผลไปถึง ความมีโชค ความร่ำรวย ความรุ่งเรือง สุขภาพ มีความสุข

ฮวงจุ้ยทำงานอย่างไร?

ความสับสนในเรื่องพลังธรรมชาติหรือพลังขี่ อยู่ที่พลังนี้จับต้องไม่ได้(โดยทั่วไป) ไม่มีที่มาที่ไป ไปสิ้นสุดตรงไหน ยังต้องเกี่ยวกับความลึกลับ ความมหัศจรรย์ เป็นคำถามที่ไม่มีที่สิ้นสุด แต่คนที่สนใจจริงมีมากและเขาเหล่านั้นก็รู้สึกได้ถึงพลังของธรรมชาติเหล่านี้ ถ้าต้องการรู้ ศึกษาได้ เหมือนกับว่าชีวิตคืออะไร? พลังธรรมชาตินี้มนุษย์สังเกตมานานนมแล้วตั้งแต่โบราณ รู้อยู่แล้วว่าจับต้องไม่ได้ ไม่มีรูปแบบ แต่เรารู้ว่ามี รู้สึกได้ แต่คนจำนวนมากรับไม่ได้เพราะ จับต้องไม่ได้ แต่พลังเหล่านี้ถ้าจัดอย่างถูกต้อง ให้ผลแน่นอน ทางวิทยาศาสตร์ก็พยายามพิสูตรว่าพลังเหล่านี้ทำงานอย่างไร ใช้เทคนิคชั้นสูง ถึงแยกอะตอม หา DNA แต่ก็ยังสรุปผลไม่ได้ แต่พลังมีแน่แต่ยังสรุปไม่ได้ ศาสนาหลายศาสนาและปรัชญาต่างๆต่างก็กล่าวถึงพลังธรรมชาติเหล่านี้ ว่ามีอำนาจอาจจะมา จากสวรรค์และโลก(จักรวาล) ฮวงจุ้ย คือการเอาพลังธรรมชาติมาจัดการจัดสรรค์ให้มีผลต่อคนเรา ตามภูมิปัญญาของชนชาติจีนโบราณ และพัฒนามาจนถึงปัจจุบันนี้

หลายพันปีมาแล้ว ชนชาติจีนโบราณได้สังเกต บันทึก เกี่ยวกับดาวต่างๆ(โดยเฉพาะกลุ่มของดาวเหนือ)ว่ามีความสัมพันธ์กับโลกและฤดูกาลของโลกอย่างไร ประมาณ 5000 ปีมาแล้วที่มีบันทึกในเรื่องนี้และเป็นรากฐานของศาสตร์ ฮวงจุ้ย บันทึกเหล่าเอามาใช้กับคนเราให้ดำเนินชีวิตไปได้ด้วยดี(ในสมัยโบราณ เอาใช้ในเรื่องการเกษตรเป็นส่วนใหญ่) เมื่อเราจัดพลังขี่ให้กับคนหนึ่งทำให้บ้านที่อยู่อาศัย หรือที่ทำงานอยู่กระแสคลื่นที่ดี ทำให้มีความสมดุลกับ สิ่งแวดล้อมแล้ว เหตุการณ์ในชีวิตก็ควรจะดีขึ้น(ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย) ทั้งสุขภาพ การเงิน ความสัมพันธ์กับคนรอบข้าง โอกาส ความรุ่งเรือง ฯลฯ ถ้าเราไม่จัดพลังขี่ที่ดีให้เข้าที่เข้าทาง อาจจะมีความร้ายๆต่างๆมาก็ได้ โดยเฉพาะสุขภาพ ซึ่งเป็นเหตุอันแรกแล้วเหตุอื่นๆก็จะตามมา

หลักการของฮวงจุ้ยก็คือความสมดุล ความกลมกลืนกับของสิ่งแวดล้อม บ้าน ที่ทำงาน สวนรอบบ้าน ฯลฯ ถ้าทุกอย่างสมดุลกลมกลืน ทุกอย่างก็ดี จะทำอะไรก็สำเร็จ

อีกอย่างหนึ่ง คือ การรู้จักสิ่งแวดล้อมของเรา ก็คือการรู้จักฮวงจุ้ยของเรา ทำให้ชีวิตคล้อยตามพลังธรรมชาติไม่ขัดกับธรรมชาติ เสริมพลังธรรมชาติ ถ้าพลังธรรมชาติให้ร้ายแก่เรา ฮวงจุ้ยมีเทคนิคที่จะแก้ทางวิทยาศาสตร์และปรัชญา ไม่งมงาย แต่ต้องศึกษาสักหน่อย

การใช้เทคนิคทางวิทยาศาสตร์และปรัชญากับศาสตร์ฮวงจุ้ย

วัฒนธรรมโบราณของชนชาติจีนยังใช้ได้ดีทุกวันนี้ ตั้งแต่โบราณมาแล้วที่เรื่องการรักษา สมุนไพร สรรพสิ่งทุกอย่าง ฮวงจุ้ย โหราศาสตร์จีน ของจีนมีความประทับใจกับคนเรามาก และยังเอามาใช้ในชีวิตประจำวันของคนจำนวนมาก ในคริสตวรรษที่ 21 เทคนิคทางเทคโนโลยี่ก้าวหน้าไปมาก วัฒนธรรมทางตะวันตกเริ่มสนใจในวัฒนธรรมทางตะวันออกและได้เอาศาสตร์ต่างๆที่มีนับพันปีของชนชาติจีนมีศึกษาค้นคว้า ฮวงจุ้ย ก็เป็นศาสตร์ที่ตะวันตกเอามาศึกษา ค้นคว้า โดยใช้เทคโนโลยี่สมัยใหม่ และปรัชญา มาพัฒนาเพื่อให้ชีวิตความเป็นอยู่ของคนเราในสมัยนี้ดีขึ้น โดยเฉพาะความสมดุลของชีวิตกับสิ่งแวดล้อม และ ฮวงจุ้ย ก็เป็นเรื่องเกี่ยวข้องกันอยู่แล้ว ภูมิปัญญาของชนชาติจีนบวกกับเทคโนโลยี่สมัยใหม่ผสมกัน ทำให้โลกนี้มีทางไปได้ดี

ความสมดุลและความเข้ากันได้ เป็นเรื่องที่สำคัญที่สุด และ ฮวงจุ้ย เป็นศาสตร์ที่ทำให้เป็นไปได้ ต่อ คุณเอง บ้าน ที่ทำงาน สวนหลังบ้าน ฯลฯ

พลังขี่ เป็นพลังของจักรวาลที่แทรกอยู่ในทุกสิ่งทุกอย่าง พลังขี่ เป็นพลังอยู่อย่างต่อเนื่อง เคลื่อนไหว หมุน ต่อสิ่งทุกสิ่ง พลังขี่ที่ดี เดินไปในทางอ่อนโยน(ไม่เร็วมาก)เป็นวงหรือเป็นเส้นโค้ง พลังขี่นี่เองจะทำให้มีผลดีผลร้ายต่อเรา บ้าน ฯลฯ และความมุ่งหมายของ ฮวงจุ้ย จะทำให้ เรา บ้าน สิ่งแวดล้อมสมดุล ทำให้เรา ดีขึ้น

พลังขี่ จะเป็นไปตามรูปลักษณ์ของสิ่งของที่เกี่ยวข้อง ถ้าสิ่งที่เกี่ยวข้องมีรูปแหลมคมหรือขรุขระพลังขี่ก็จะแตกแยกกระจัดกระจาย พลังชนิดนี้จะเป็นอันตรายต่อคนหรือวัตถุหรือสถานที่ที่เกี่ยวข้อง ถ้าเป็นอยู่เวลานาน ก็จะมีผลต่อ สุขภาพ โชคลาภก็จะไม่มี การจัด ฮวงจุ้ย ก็เพื่อหลีกเลี่ยงพลังร้ายเหล่านี้

พลังหยิง และ พลังหยาง

มาทำความเข้าใจอิทธิพลของ หยิง และ หยาง

ตามหลักปรัชญาของจีนพิจารณาลึกลงไปชีวิต ทุกสิ่งทุกอย่างตามหลักพื้นฐานต้องมาจาก จักรวาล สวรรค์ และโลก และทั้งสามสิ่งต้องได้รับพลังมาจาก ฟ้า ซึ่งมีพลังสองพลัง พลังทั้งสองพลังมีเท่ากันแต่มีอิทธิพลตรงกันข้ามกัน คือพลังของ หยิง และ หยาง พลังทั้งสองจะประกอบกันเข้าเป็น ครรลองของชีวิต จะทำให้มีความสมดุลและกลมกลืนกัน ดังรูป

วงกลมนี้ประกอบด้วยสองส่วน ส่วนขาวและส่วนดำ ในส่วนขาวก็จะมีสีดำเล็กอยู่ และส่วนดำก็จะมีส่วนที่ขาวเล็กๆอยู่ วงกลมนี้เป็นความหมายของชีวิต ซึ่งหมายว่ามีพลังธรรมชาติของหยิงและหยาง และพลังทั้งสองจะมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา พลังทั้งสองจะไม่วันชนะต่อฝ่ายตรงข้ามตลอดไป ต้องเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา และมีอิทธิพลตรงข้ามเสมอ คนเราจะมีชีวิตที่มีแต่พลังหยิงหรือพลังหยางอย่างเดียวไม่ได้ ต้องมีทั้งสองอย่าง

หยิง
  • ความมืด,ดวงจันทร์
  • กลางคืน,เพศหญิง
  • ไม่ต่อสู้,อ่อน
  • เย็น,ฤดูหนาว
  • เปียก,ความเงียบ
  • ความอ่อนโยน,โลก
  • แม่,ความตาย ชีวิต
  • สีดำ,ความเศร้า
หยาง
แสงสว่าง,ดวงอาทิตย์
กลางวัน,เพศชาย
กระฉับกระฉับ,แข็ง
ร้อน,ฤดูร้อน
แห้ง,เสียงดัง
สวรรค์,พ่อ
ชีวิต,สีแดง
ความชื่นบาน


พลังทั้งห้าธาตุ

ในศาสตร์ฮวงจุ้ยยังมีพลังแบ่งเป็นห้าธาตุ ที่มีผลต่อธรรมชาติ ธรรมชาติต้องประกอบด้วยธาตุทั้งห้า เหมือนกับอิทธิพลของ หยิงและหยาง ในจักรวาลนี้ทุกสิ่งทุกอย่างต้องประกอบด้วย หยิงและหยาง และทุกสิ่งทุกอย่างต้องอยู่ในอิทธิพลของธาตุทั้งห้าด้วย

ธาตุทั้งห้าคือ ไฟ, ดิน, ทอง(โลหะ), น้ำ, ไม้. (ธาตุทั้งหน้านี้มีอิทธิพลเสมือนหนึ่งวัตถุธาตุที่มีพลังแบบนั้นๆ) ธาตุนี้อาจอธิบายได้ว่าเป็น ฤดู, สี, ตัวเลข, อวัยวะของร่างกาย, รส, โหราศาสตร์, รูปลักษณ์, พูดง่ายๆว่าทุกสิ่งทุกอย่างมองภาพเป็นธาตุๆได้ทั้งสิ้น และความมุ่งหมายของศาสตร์ฮวงจุ้ยก็คือความสมดุล ความเข้ากันได้ของทุกสิ่งทุกอย่าง

ทฤษฎีธาตุทั้งห้านี้ทุกสำนักต้องเอาใช้ไม่ว่าศาสตร์ฮวงจุ้ยแบบดั้งเดิมหรือแบบพัฒนา เอามาใช้ในการรักษาแก้ไข การจัดการฮวงจุ้ยก็คือจัดการธาตุทั้งห้านี้ให้สมดุลและกลมกลืนกัน

ธาตุไฟ

ธาตุไฟมีอิทธิพลของ ฤดูร้อน, สีแดง, ตัวเลข 9, ทิศใต้. มีอิทธิพลของหยางอย่างมาก และยังเกี่ยวกับความอบอุ่น ความรัก โรแมนติก ความสนุกสนาน การหัวเราะ(เบิกบาน) เป็นตัวกระตุ้น เป็นที่รู้จัก เกียรติยศ อิทธิพลของหยางเป็นอิทธิพลแบบไฟในเตา การสร้างสรรค์ อิทธิพลของหยิง เปรียบเสมือนหนึ่งเปลวไฟของเทียนไข ธาตุไฟแบบหยางควรจะใช้สีแดง, ม่วง และถ้าเป็นธาตุไฟแบบหยิง ควรจะใช้สีชมพู ธาตุไฟเกี่ยวกับอวัยวะในร่างกาย คือ สมอง, หัวใจ, เลือด, ประสาท

ธาตุดิน

ธาตุดินมีอิทธิพลของ ช่วงหัวต่อของฤดูร้อนไปฤดูใบไม้ร่วง และ ฤดูหนาว ไปฤดูใบไม้ผลิ ใช้สีเหลือง, สีทราย, สีน้ำตาล, ตัวเลข 2, 5, 8. ทิศทาง ตะวันตกเฉียงใต้, และตะวันออกเฉียงเหนือและตรงจุดกึ่งกลางของบ้าน เราสามารถใช้อิทธิพลของธาตุทั้งห้านี้มาเสริมให้มีความมั่นคง ความแข็งแรง ให้การสนับสนุน อีกอันหนึ่งก็คือเพิ่มพลังให้มีความสบาย สะดวก ความปลอดภัย อิทธิพลของหยางจะเป็นรูปแบบภูเขาสูงใหญ่ ส่วนหยิงเป็นรูปแบบของดิน ก้อนหิน คริสตัล เซรามิก

ธาตุดินเกี่ยวกับอวัยวะของร่างกายคือ กระเพาะ ท้อง ระบบย่อยอาหาร เซลล์ ไขมันของร่างกาย

ธาตุทอง(โลหะ)

ธาตุทองมีอิทธิพลของฤดูใบไม้ร่วง โลหะต่างๆ สีเมทาลิค สีขาว ธาตุทอง มีอิทธิพลเกี่ยวกับโครงสร้าง องค์กรในบริเวณนั้นๆ พลังธาตุทองเป็นพลังสงบ เรียบง่าย อยู่เป็นกลุ่ม มีความกระจ่างและมีความแน่นอน เที่ยงตรง ตัวเลข 6 และ 7 ทิศทาง ตะวันตกและตะวันตกเฉียงเหนือ

อิทธิพลอีกอันหนึ่งก็คือการจัดการ การสร้างโครงร่าง การสื่อสาร เพราะเรื่องดังกล่าวต้องเกี่ยวข้องกับโลหะ(สายต่าง ลวด) อิทธิพลของพลังหยาง เปรียบเหมือนแท่งเหล็กที่เป็นส่วนประกอบของตัวตึกมีส่วนสนับสนุนเป็นโครงสร้าง หรือไม่ก็มีอิทธิพลเกี่ยวกับอาวุธ ส่วนพลังของหยิงจะเกี่ยวกับลวดโลหะ เพชรนิลจินดา

ธาตุทองเกี่ยวกับอวัยวะของร่างกายคือ ปอด ผิวหนัง ฟัน

ธาตุน้ำ

ธาตุน้ำนี้ที่มีอิทธิพลของพลังหยิงมากที่สุดในบรรดาธาตุทั้งห้า และมีอิทธิพลของฤดูหนาว, สีดำหรือสีฟ้า, ตัวเลขคือ 1, ทิศทาง เหนือ. พลังของธาตุน้ำ คือ ของเปียก, ชื้น, เย็น,ของเหลวทั้งหมด และเหลวตามธรรมชาติเช่น ลำธาร, ฝน, น้ำตก, มหาสมุทร และของที่คนทำขึ้น เช่น น้ำพุ, สระวายน้ำ เป็นต้น

ธาตุน้ำนี้ใช้อธิบายถึงคนที่มีปัญญาลึกซึ้งก็ได้ ธาตุน้ำจะเป็นพลังที่บริสุทธิ หมายถึงชีวิตด้วย ถ้าไม่มีน้ำ ก็ไม่มีชีวิต พลังหยางในธาตุน้ำหมายถึงน้ำที่มีบริเวณกว้าง เช่น มหาสมุทร แม่น้ำ ส่วนพลังหยิงในธาตุน้ำหมายถึง น้ำค้างบนหญ้า เป็นต้น
ธาตุน้ำที่เกี่ยวกับอวัยวะของร่างกายคือ ไต, กระดูก, อวัยวะเพศ

ธาตุไม้

ธาตุไม้มีอิทธิพลเกี่ยวกับฤดูใบไม้ผลิ หมายชีวิตที่เกิดใหม่ หรือการริเริ่มอะไรใหม่ๆ สีเขียวเป็นธาตุนี้ ตัวเลขคือ 3, 4 ทิศทาง คือ ตะวันออกและตะวันออกเฉียงใต้ ธาตุไม้มีอิทธิพลในทางอ่อนโยน ดูแล และไปทางเสริมให้ร่ำรวย รุ่งโรจน์ด้วย ดังนั้นธาตุไม้ก็เป็นนิยมอย่างมาก พลังหยางในธาตุไม้หมายถึงต้นไม้ใหญ่ ต้นไม้ที่มีอายุมาก หรือเฟอร์นิเจอร์ชิ้นใหญ่ หนักก็ได้ ส่วนพลังหยิงในธาตุไม้หมายถึง ดอกไม้ ไม้ประดับต้นเล็กๆ ธาตุไม้มีอิทธิพลที่ทำให้ ดื้อ เพียรพยายาม ก็คือพลังหยาง ส่วนพลังหยิงมีอิทธิพลทำให้ประนีประนอม ยืดหยุ่น
ธาตุไม้ที่เกี่ยวกับอวัยวะของร่างกายคือ แขน ขา ตับ เส้นประสาทไขสันหลัง

ธาตุทั้งห้านี้สามารถจัดให้สมดุลกลมกลืนได้ ไม่ว่าจะเป็นบ้าน ที่ทำงาน สวนหลังบ้านหรือหน้าบ้าน โดยใช้ทฤษฎีของพลังหยางและพลังหยิงเป็นสำคัญ จะได้ผลสำเร็จอย่างลึกซึ้ง เจาะลึก เช่น ถ้าเรามีห้องๆหนึ่งที่ค่อนข้างมืด พิจารณาแล้วว่ามีพลังหยิงมากไปหน่อย เราต้องเสริมด้วยพลังหยาง เราย่อมเสริมด้วยแสงสว่าง ไฟ หรือไม่เสริมด้วยสีแดง อาจจะเป็นพรมสีแดงก็ได้ หรือไม่ก็เสริมด้วยวัตถุธาตุไฟ(หยาง) ธาตุไฟมีอิทธิพลเกี่ยวกับความอบอุ่นและฤดูร้อน ห้องนั้นก็จะมีความรู้สึกอบอุ่นขึ้น มีชีวิตชีวาขึ้น ทำให้มีความสมดุลและมีความกลมกลืน

อีกตัวอย่างหนึ่ง ถ้าห้องนั้นมีแสงส่วางมากเกินไปหรือมีหน้าต่างมาก ซึ่งแสดงว่าพลังหยางมีมากเกินไป เราต้องทำให้มีความสมดุลโดยไม่ไปรบกวนเรื่องแสงสว่างที่ดีอยู่แล้ว เราควรเพิ่มพลังหยิงให้สมดุล ทำให้ความร้อนแรงของพลังหยางลดลงโดยเพิ่มสีน้ำเงินหรือสีดำ ซึ่งเป็นสีของพลังหยิง ห้องนั้นก็จะกลับมาอยู่ในความสมดุล กลมกลืน อยู่แล้วรู้สึกสบาย ผ่อนคลาย อยู่ได้นาน โดยไม่ต้องลดแสงสว่าง

การประยุกต์ในการธาตุทั้งห้านี้ ก่อนอื่นต้องรู้ว่าธาตุอะไรแทนค่าด้วยสีอะไร เทคนิคเป็นเทคนิคธรรมดา ใช้ได้เสมอและไม่แพงอย่างที่คิด

ธาตุและสีของธาตุ

ธาตุดิน ธาตุทอง ธาตุน้ำ ธาตุไม้ ธาตุไฟ
เหลือง ขาว ดำ เขียว แดง
น้ำตาล ทอง ฟ้า - ชมพู
ทราย เงิน (navy) - ม่วง
สีโลหะ (metalic)

วงรอบของการสร้างสรรค์ส่งเสริมและการทำลายของธาตุต่อธาตุ

ธาตุทั้งห้าสามารถจัดให้ลำดับตามต้องการได้สองแบบ เมื่อธาตุทั้งสองมีความสัมพันธ์ จะมีอิทธิพล สองแบบคือ การสร้างสรรค์ส่งเสริมหรือทำลายกัน
การสร้างสรรค์ส่งเสริม ธาตุจะเพิ่มความแข็งแรง สนับสนุน ต่อธาตุหนึ่ง เพราะ ธาตุนั้นไม่มีอิทธิพลพอในสถานที่นั้นๆ

การทำลาย ธาตุจะทำลายอิทธิพลของอีกธาตุหนึ่ง เพราะธาตุนั้นมีมากเกินไปหรือไม่เหมาะ

ธาตุต่างๆนั้นต่างก็อิทธิพลสร้างสรรค์ส่งเสริมหรือทำลายต่ออีกธาตุหนึ่งเป็นการเฉพาะเท่านั้น

วงรอบของการสร้างสรรค์ส่งเสริม

เริ่มจากส่วนบนสุดของวงรอบการสร้างสรรค์ส่งเสริม ถ้าพลังธาตุไฟมีมากพอก็จะส่งเสริมธาตุดิน เสมือนกับว่า ไฟทำให้เถ้าลงสู่ดิน
ธาตุดินก่อเกิดแร่โลหะ(ทอง) ซึ่งมาจากดิน
ธาตุทอง(โลหะ) ก่อเกิดธาตุน้ำ เพราะโลหะเมื่อได้รับความร้อนมาก ย่อมละลายเป็นน้ำได้
ธาตุน้ำก่อให้เกิดธาตุไม้
ธาตุไม้ก่อให้เกิดธาตุไฟ

วงรอบของการทำลาย
รูปวงรอบของการทำลาย

เริ่มที่ธาตุไฟ จะเห็นได้ว่า ธาตุไฟทำลายธาตุทอง(โลหะ) ใช้ไฟมากเท่าไรโลหะก็ละลายมากเท่านั้น ผลที่สุดก็กลายเป็นของเหลว สิ้นสุดความเป็นโลหะ(ทอง)
ธาตุทอง มีอิทธิพลในทางทำลายต่อธาตุไม้ เหมือนขวาน(โลหะ)สามารถตัดไม้หรือโค่นต้นไม้ได้
ธาตุไม้ มีอิทธิพลในทางทำลายต่อธาตุดิน ธาตุไม้ทำลายธาตุดินโดยใช้รากชอนไปในดินและทำลาย
ธาตุดิน มีอิทธิพลในทางทำลายต่อธาตุน้ำ เมื่อดินผสมน้ำ น้ำก็สกปรก
ธาตุน้ำ มีอิทธิพลในทางทำลายต่อธาตุไฟ พูดง่ายๆย่อมดับไฟได้
วงรอบของการทำลายนี้มีประโยชน์มากที่จะทำลายหรือสลายธาตุที่ไม่ต้องการหรือทำให้มีอิทธิพลน้อยลง เช่น ห้องทำงานทาสีขาวมีเครื่องเครื่องไฟฟ้า ห้องนี้จะมีอิทธิพลของพลังของธาตุทองมากเกินไป คนที่ทำงานในห้องนี้เป็นนานจะรู้สึกเปลี้ย เครียด เจ็บไหล่ ต้นคอ แน่ในที่สุดหมดแรง เราต้องลดพลังของธาตุทองลงบ้าง โดยใช้วงรอบของการทำลาย ใช้ต้นไม้ในกระถางสีแดง หรือใช้สีเขียวมาทาที่ผนัง โดยใช้ธาตุไฟและธาตุไม้มาสยบอิทธิพลของธาตุทองลงบ้าง

การพิจารณาบ้านหรือสิ่งอื่นๆในเรื่องธาตุทั้งห้าอาจจะต้องประสบการณ์บ้าง ก่อนอื่นต้องพิจารณาว่าวัตถุนั้นๆเป็นธาตุอะไร เรามาฝึกอย่างง่ายๆดังนี้ เดินรอบๆบ้านพร้อมกระดาษและดินสอพร้อมจดสิ่งที่หน้าสนใจลงไว้ให้หมด โดยเฉพาะพวกเฟอร์นิเจอร์ใหญ่ๆ แล้วบันทึกไว้ด้วยว่าเป็นธาตุอะไร เช่น

ธาตุไฟ ธาตุดิน ธาตุทอง ธาตุน้ำ ธาตุไม้
พรมสีแดง ห้องสีแดง ห้องสีขาว ตู้ปลาสีน้ำเงิน ช่อดอกไม้สีเขียว
เตาอบ เครื่องเคลือบ คอมพิวเตอร์ รูปภาพน้ำตก
เตาผิง แจกันเซรามิค
อย่าลืมว่าหัวใจของฮวงจุ้ยก็คือความสมดุลและความกลมกลืนด้วย ถ้าในบ้านยังขาดธาตุอะไร ความสมดุลก็ยังไม่เกิดขึ้น พลังบางอย่างขาดไป อาจจะทำให้เรามีปัญหาหรือเจ็บป่วยได้

เทคนิคพื้นเคลียร์พลังร้ายในบ้าน
  • เปิดหน้าต่างในห้องนั้นให้อากาศถ่ายเทได้สะดวก
  • จัดการขยะ ฝุ่นหรือของที่ไม่ใช้ออกให้หมด
  • จุดเทียนหรือติดไฟในบริเวณนั้น
  • จุดธูป หรือ กำยาน หรือน้ำมันหอม ในบริเวณมุมหรือห้องนั้นที่มีเหตุการณ์ร้ายมาก่อน
  • ใช้เรื่องเสียง เสียงระฆัง
  • ใช้การเคลื่อนไหว การเต้น โบกแขน สวดมนต์
  • ทำทุกอย่างหรือบางอย่างที่กล่าวมาแล้ว ในขณะที่คุณ มั่นใจ เอาจริงเอาจัง

การจัดการทำความสะอาด ขจัดสิ่งที่ไม่ต้องการออกทิ้ง ทำให้พลังขี่ที่ดีได้สะดวก เป็นวิธีที่ง่ายและสะดวกและได้ผลอย่างยิ่ง อย่างทำอย่างหนึ่งอย่างใดเพียงอย่างเดียวไม่ได้ ต้องทำทั้งสองในเวลาเดียวกัน

พื้นฐานการจัดฮวงจุ้ยภายในบ้านหรือห้อง
เมื่อเราได้บ้านหรือห้องที่พอใจแล้ว(หมายถึงว่าบริเวณรอบนอกใช้ได้แล้ว)

พลังหยิงและพลังหยางของจัดการฮวงจุ้ยภายใน

มีห้องอยู่ห้องหนึ่งในตึกที่มีพลังหยิงมากกว่าห้องอื่นๆ และกลับกันมีห้องอยู่ห้องหนึ่งที่มีพลังหยางมากกว่าห้องอื่นในตึกเดียวกัน หยิง หยาง
ห้องส้วม ห้องครัว
ห้องไว้เสื้อผ้า ห้องสรรสรรค์
ห้องเก็บของ ห้องนั่งเล่น
ห้องนอน ห้องเรียน
ห้องน้ำ ห้องรับแขก
ตู้เก็บของ ห้องทำงาน
ห้องมืด ห้องแสงสว่าง

สีและแสงสว่างเป็นการเยียวยาแก้ไขอย่างหนึ่งของศาสตร์ฮวงจุ้ย

สามารถเสริมหรือสลายของพลังหยิงและพลังหยางได้เมื่อเอาใช้ในการจัดฮวงจุ้ยภายในบ้านหรือห้อง ไม่ว่าในห้องนอน ห้องน้ำ ห้องส้วม ห้องเหล่านี้มีพลังหยิงมากกว่าพลังหยาง เพราะว่าห้องนอนเป็นที่สำหรับนอนเป็นพลังหยิง ห้องน้ำ ห้องส้วม เกี่ยวกับน้ำ หมายถึงของเสีย ห้องเหล่านี้ไม่มีพลังหยาง นอกจากว่ามีเหตุผลอื่นเกี่ยวกับการเยียวยาแก้ไข
ก่อนที่เราจะจัดการฮวงจุ้ย(แก้ไข เยียวยา) เราควรดูรอบๆ พร้อมทั้งจดบันทึกว่า จุดไหนมีพลังหยิงหรือพลังหยางเป็นอย่างไร แล้วพิจารณา
+ ห้องนั้นสีอะไร
+ เฟอร์นิเจอร์ที่อยู่นให้องกลมกลืนกับหรือไม่
+ การเดินไปมาในห้องสะดวกหรือเปล่า มีอะไรรกหรือเกะกะหรือเปล่า
+ มีเครื่องใช้ไฟฟ้ารวมหลอดไฟด้วยเท่าไร
+ ห้องนั้นทึบ หรือมืดหรือมีแสงสว่างเป็นอย่างไร
+ มีกลิ่นอับชื้นหรือกลิ่นสดชื่น
+ การให้สีมีความสมดุลหรือเปล่าว่ามืดหรือสว่างเท่าไร

บันทึกนี้จะให้ไอเดียว่าเราควรจะแก้ไขหรือส่งเสริมอย่างไร เพื่อพลังต่างๆจะมีความสมดุล มีความกลมกลืนกับเรา
ห้องที่มีพลังหยิงมากเช่น ห้องนอน ต้องจัดให้มีความสงบ ราบเรียบ ถ้าคุณใช้สีจ้า เช่น แดงหรือเหลือง มากเกินไป พลังสีจะทำคุณนอนไม่หลับหรือหลับๆตื่นๆ พลังของหยิง ควรจะอยู่ในที่ที่ไม่พลุกพล่าน สงบ ส่วนพลังของของหยาง ต้องอยู่ในที่พลุกพล่าน มีการเคลื่อนไหวตลอดเวลา
ห้องที่มีพลังหยิงมากควรต้องอยู่ห่างประตูเข้าบ้าน ส่วนห้องที่มีพลังหยางมักให้อยูในส่วนหน้าบ้าน

ศรพิษภายในบ้านหรือห้อง

ศรพิษก็คือ คาน มุมของตู้ ระเบียงยาว สันหนังสือที่อยู่บนชั้น หรืออะไรก็ตามที่มีลักษณะ แหลง คม ที่จะชี้จุดแหลมไปที่เรา ในขณะที่เรา นอน ประทานอาหาร นั่งเล่น หรือทำงาน
การแก้ไขศรพิษทำได้ง่ายๆโดยพรางเสียไม่ให้เห็น ไม่จำเป็นต้องแก้ไขสิ่งก่อสร้าง ถ้าคุณมีปัญหากับเรื่องศรพิษ ควรแก้ไขดังนี้

  1. เลื่อนที่นั่งหรือที่นอนให้พ้นจากมุมแหลมนั้นๆ
  2. เอาสิ่งอะไรมาบังจุดแหลมคมนั้นเสีย เช่น กระถางต้นไม้ รูปปั้น
  3. เอาสปอร์ตไลท์ฉายจากล่างไปสู่คาน
  4. ทำเพดานหลอกมาบังคานไว้
  5. ทำประตูชั้นหนังสือ
  6. แขวนขลุ่ยขนานกับคาน ให้ปากขลุ่ยแตะกำแพง พลังร้ายจะได้ขึ้นไปสู่เบื้องบน ไม่ลงสู่เบื้องล่าง
ชัยภูมิสนับสนุนภายในห้องหรือบ้าน

ถ้าเราต้องใช้เวลามากในห้องหรือที่ทำงาน เ ราควรจะต้องหาชัยภูมิภายในห้อง ฯลฯ ด้วย ที่เรานั่งต้องมีชัยภูมิเสมือน ด้านหลังเป็นภูเขาแล้ว มีแขนสองแขน ข้างซ้ายขวาคอยโอบไว้ ข้างหน้าควรมีพื้นที่ที่เก็บพลังบ้าง
ในห้องที่มีพลังหยางแรง เช่นห้องทำงาน ห้องสรรสรรค์ หรือห้องศึกษา ที่เรานั่งต้องมีอะไรสนับสนุน(ภูเขา ฯลฯ) อย่านั่งโดยไม่มีอะไรสนับสนุนข้างหลัง เช่นหน้าต่าง ประตู ข้างซ้ายควรมีอะไรที่เคลื่อนไหว ข้างขวาควรมีอะไรที่มั่นคง ไม่เคลื่อนไหว ข้างหน้าควรพื้นที่พอสมควร ข้างหน้าถ้ามีรูปน้ำตกก็ดี ข้างหลังห้ามมีน้ำ แต่ให้มีรูปภูเขาก็ดี
ในห้องที่มีพลังหยิงแรง เช่นห้องนอน ส่วนที่สำคัญก็คือที่ตั้งเตียง ต้องอยู่ชิดกำแพง อย่าอยู่ใต้หน้าต่าง อย่าอยู่ใต้หิ้ง

ข้อที่ไม่ควรทำ
ไม่แนะนำให้นั่ง ทำงาน นอน ที่มุมห้อง เพราะที่มุมห้องเป็นที่ที่กำแพงสองอันมาชนกัน ไม่เหมาะ พลังขี่มักจะหยุดชะงักตรงมุมห้อง และจะเป็นผลร้าย ติดขัด สุขภาพจะเลวลง มุมห้องควรจะไว้ของที่เคลื่อนไหว เช่น โทรศัพท์ เครื่องแฟกซ์ โทรทัศน์ นาฬิกา วิทยุ เครื่องเสียง หลอดไฟ เพราะของเหล่านี้ จะให้พลังขี่เคลื่อนไหว ไม่หยุดอยู่กับที่

กระจกเงา

เป็นเครื่องมือส่งเสริมหรือแก้ไขในทางฮวงจุ้ยที่ธรรมดาและไม่แพงและได้ผลดีตามความประสงค์ อิทธิพลของกระจกเงาก็คือ การสะท้อนแสง ทำให้ได้ ประโยชน์อย่างมาก ในการสะท้อนผลดีผลร้าย ตามความต้องการ การแขวนกระจกเหนือโต๊ะอาหาร จะทำให้เพิ่มคุณค่าให้อาหาร และทำให้สมดุล กลมกลืนของ คนในครอบครัว แต่อย่าลืมว่ากระจกเงาจะสะท้อนศรพิษ ห้องส้วม บันได หรืออย่างอื่นที่ไม่ประสงค์ ด้วย ดังควรระวัง เพราะจะสะท้อน เป็นสองเท่าด้วย
กระจกเงาใช้สะท้อนแสงไฟ จากที่อื่นมา ทำให้ที่มืดมีแสงได้ ทำให้บริเวณนั้นอยู่ดูใหญ่กว่าเดิม
เมื่อใช้กระจกเงา เราต้องอย่าลืมว่าเราต้องการให้สะท้อนสิ่งดีๆ และภาพสะท้อนต้องคงรูป ไม่แตกแยก การใช้กระจกเงา หรือเซรามิกมาต่อกัน ไม่แนะให้ใช้ เพราะการสะท้อนจะไม่สมบูรณ์ พลังขี่ก็จะสับสน เมื่อจะสะท้อนตัวเราควรใช้กระจกเงาที่ใหญ่พอ อย่าให้ หัว แขน ขา ขาด จะมีความรู้สึกที่ไม่ดี
ไม่แนะนำให้แขวนกระจกเงาในห้องนอนนะครับ พลังขี่จะวิ่งไปวี่งมาจนคุณนอนไม่หลับ